Beyond Creative, We do

FB:Theexplorerphotographer

test

วันเสาร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2555

อาหวัง


มาจะกล่าวบทไปถึงอาหวังน้อย เพื่อนสนิทชิดเชื้อที่สุดของมนุษย์ในยุคสมัยใหม่ องครักษ์ผู้คอยติดตามการดำเนินชีวิตของทุกๆชีวิตอยู่ไม่ห่าง ทั้งยามที่มนุษย์มีสุขหรือทุกข์  อาหวังไม่เคยปริปากเรียกร้องสิ่งใดจากผู้ครอบครอง ไำด้แต่ทำตามคำบังคับบัญชาของผู้สั่งการเท่านั้น บางครั้งกลายเป็นตัวเราเองที่พยายามจะข้ามกฏเกณฑ์โดยใช้อำนาจไปเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆรอบตัว โดยใช้การบังคับ ขู่เข็ญ และจำกัดบริเวณให้ทุกสิ่งอยู่ภายใต้กรอบความคิดของเรา แต่ทุกครั้งคนที่จะได้รับบาดเจ็บจากการข้ามกฏเกณฑ์นี้ก็คือ ตัวเราเอง

อาหวังคงไม่ใช่หนุ่มน้อยหน้าตี๋ ตาตี่ ใส่ชุดจอมยุทธตวัดดาบปราบศัตรูไปมา เหมือนในหนังจีนกำลังภายในอย่างที่รู้จักกัน  การติดต่อสื่อสารของเรากับอาหวังสามารถกระทำได้ทุกที่ทุกเวลาทุกกาลเทศะ อาหวังมักจะปรากฏตัวขึ้น เมื่อเรารู้สึกต้องการอยากได้กับสิ่งที่ยังมาไม่ถึง ความกระหายความสำเร็จ ความต้องการเติมเต็มในสิ่งที่ขาดหาย  อะไรก็ตามที่กำลังจะเริ่มต้นเกิดขึ้นจากตัวเรา หรือที่เราเรียกกันสั้นๆในชีวิตประจำวันว่า "ความหวัง"



ความหวังมักจะเกิดขึ้นพร้อมกับการออกเดินทาง ณ จุดเริ่มต้น การเริ่มต้นกระทำสิ่งใหม่โดยมีความหวังที่เต็มเปี่ยมนั้น จะเป็นเหมือนแรงผลักดันอันสูงส่งที่ช่วยประคองให้เราสามารถไปถึงสิ่งที่เป็นจุดมุ่งหมายที่ฝันใฝ่  ความหวังยังเป็นเหมือนพลังในการริเริ่มต้นต่อสู้กับอุปสรรค และความผิดพลาด   แต่เมื่อใดที่ความต้องการของตัวเรากำลังแผ่อิทธิพลเกินเลยไปสู่การบังคับควบคุมความเป็นไปของสิ่งรอบข้าง หรือความกระหายที่เกินล้นออกไปสู่สิ่งแวดล้อม รวมทั้งผู้คนรอบข้างให้ปฏิบัติตามความคิดของตัวเราเป็นใหญ่ คงไม่ต่างกับการที่เรากำลังเดินไปหยิบโซ่ตรวนที่ทำด้วยเหล็กกล้ากลับมารัดความหวังของตัวเองเอาไว้ และเปลี่ยนชื่อใหม่ว่า "ความคาดหวัง"

เมื่อใดก็ตามที่มีความคาดหวังเกิดขึ้น  นั่นก็เหมือนเรากำลังคาดคะ้เนถึงบทสรุปของเหตุการณ์หนึ่งๆ ผลลัพธ์ของเหตุการณ์หนึ่งๆมักจะมีอยู่มากกว่าสองทางเสมอ หรือที่เรารู้จักกับชื่อของผลลัพธ์ว่า "ความสมหวัง" และ "ความผิดหวัง"  คนส่วนมากเมื่อสร้างความคาดหวังมาแล้วคงต้องการเพียงความสมหวังเพียงเท่านั้น ถ้าวันนี้เดินไปแผงขายลอตเตอรี่เราคงคาดหวังว่ากระดาษที่มีตัวเลขหกหลักแผ่นนี้คงจะทำเงินให้ได้เป็นกอบเป็นกำ ตรงกันข้ามถ้าลอตเตอรี่ใบนี้ไม่มีเลขที่ตรงกับการออกรางวัลเลย  ผลลัพธ์มันคงถูกเปลี่ยนชื่อเป็นความผิดหวัง กับความเสียดายเงินจำนวนนั้นที่ได้ทุ่มเทลงไปกับกระดาษหนึ่งใบ


ความสมหวังและความผิดหวังมักจะเดินเคียงข้างกัน หากเปรียบความสมหวังเป็นหยิน ความผิดหวังคงจะเป็นหยาง ทั้งคู่ถูกกำหนดโดยกฏของธรรมชาติ  เมื่อใดที่ความคาดหวังเกิดขึ้นในใจ  มนุษย์ควรจะทำความเข้าใจกับกฏธรรมชาตินี้ กล่าวคือ เมื่อใดมนุษย์ต้องการความสมหวังแล้ว ก็จงเรียนรู้ที่จะผิดหวังเอาไว้ เผื่อวันหนึ่งความเจ็บปวดจากความผิดหวังมันจะช่วยบรรเทา  เมื่อเรารู้ตัวก่อนหน้าว่าความสมหวัง และความผิดหวังมักจะมาควบคู่กันเสมอๆ

การดำเนินชีวิตในปัจจุบันที่มีการแข่งขันกันมากขึ้น เมื่อสังคมส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับสิ่งที่เป็นวัตถุมากกว่าจิตใจ ความหรูหรา ความโก้เก๋ ความสะดวกสบายถูกปรับขึ้นมาเป็นมาตรฐานวัดความเป็นอยู่ของคนในสังคม   หากวันนี้เรายังไม่มีโทรศัพท์มือถือระบบ 3G ก็คงรู้สึกหดหู่น่าดูที่จะเดินสวนกับผู้คนไปบนท้องถนน และเห็นผู้คนมากมายกำลังก้มมองจอโทรศัพท์ พร้อมทั้งกระหยิ่มยิ้มย่องกับการแชท หรืออัพเดตสถานะในกำแพงสีฟ้าของตัวเอง แน่นอนที่ความคาดหวังของคนในสังคมยุคไฮเทคย่อมต้องสูงขึ้นไปตามสิ่งเร้ารอบตัวที่กำลังพัฒนาอยู่ตลอดเวลา

เทียบกับสมัยยุคหินคงไม่มีมนุษย์หินคนใดคาดหวังที่จะเป็นเจ้าของคอนโดกลางใจเมือง รถยนต์ลัมโบกินี่คันหรู หรือการมีเงินเป็นเศรษฐีพันล้าน การดำรงชีวิตให้อยู่รอดโดยการหาอาหาร ล่าสัตว์ การสร้างที่พักอาศัยด้วยธรรมชาติ การสืบทอดประเพณีเป็นสิ่งที่สังคมยุคนั้นยึดถือปฏิบัติ   หากเราเอา I-Pad ไปยื่นให้มนุษย์ยุคหิน  พวกเขาคงจะโยนมันทิ้ง เพราะยุคสมัยนั้นหาประโยชน์อะไรจากกระดานสี่เหลี่ยมนี้ไม่ได้เลย



ความคาดหวังสามารถส่งอิทธิพลไปสู่สิ่งรอบตัวเราได้เสมอๆ และเป็นสิ่งที่หลายๆคนไม่พร้อมที่จะเข้าใจ การบังคับให้ใครซักคนเป็นไปอย่างความคิดเรา ความสมหวังจะเกิดขึ้นได้เมื่อเขาปฏิบัติตามและนั่นยังหมายถึงผลลัพธ์ที่เป็นบวกสำหรับบุคคลทั้งสองฝ่าย แต่หากเมื่อใดที่เรากำลังพยายามบังคับใครซักคนด้วยความคาดหวังอย่างแรงกล้า แต่เขาไม่ปฏิบัติตาม นั่นอาจจะหมายถึงผลลัพธ์ที่เป็นลบกำลังเกิดขึ้นกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง สุดท้ายแล้วความผิดหวังมักจะตามมาเสมอ

ปัญหาการหย่าล้างในปัจจุบันอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับความคาดหวังบ้างในบางกรณี เมื่ออัตตาหรือความเป็นตัวเองคาดหวังให้อีกฝ่ายต้องเป็นอย่างที่ต้องการ เริ่มที่จะยอมรับความต้องการของอีกฝ่ายไม่ได้ หากเคยได้ยินเรื่องราวจากหนังสือ "ผู้ชายมาจากดาวอังคาร ผู้หญิงมาจากดาวศุกร์" โดยจอห์น เกรย์ผู้เขียนได้เล่าเรื่องของมนุษย์ชาย-หญิงที่อยู่ต่างสถานที่ ต่างความคิด ต่างภาษา ต่างวัฒนธรรม ทั้งคู่อาศัยอยู่บนดาวเคราะห์ที่แตกต่างกัน จนวันหนึ่งเมื่อพวกเขาเดินทางมาอาศัยอยู่บนโลก ต่างฝ่ายต่างต้องการให้ฝ่ายหนึ่ง “ชอบเหมือนกับที่เราชอบ” และ “รู้สึกเหมือนกับที่เรารู้สึก” เมื่อความคาดหวังของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่บรรลุ ก็มักจะเกิดความโกรธ หรือความไม่เข้าใจต่ออีกฝ่ายหนึ่งเสมอๆ การคาดหวังว่าคนอื่นจะเปลี่ยนไปเป็นดั่งความคิดเราคงต้องมองผลลัพธ์ในระยะยาว ถ้าประโยชน์เกิดขึ้นด้วยกันทั้งสองฝ่ายมันคือความสมหวัง แต่ในทางตรงกันข้ามถ้าประโยชน์เกิดขึ้นกับแค่ฝ่ายเดียว หรือทั้งสองฝ่ายไม่ได้รับประโยชน์ ก็จงพร้อมที่จะยอมรับความผิดหวังที่จะเกิดขึ้นในไม่ช้า  หากมนุษย์ชาย-หญิงต่างดาวเคราะห์ทั้งสองเรียนรู้ที่จะย้อนกลับไปทำความเข้าใจ และยอมรับซึ่งกันและกัน ถึงช่วงเวลาแห่งความสุขเริ่มแรกที่พวกเขายังอยู่กันคนละดาวเคราะห์  พวกเขาคงได้เรียนรู้และเข้าใจถึงการอยู่ร่วมกันโดยปราศจากความคาดหวังให้อีกฝ่ายหนึ่งต้องเป็นไปอย่างที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องการ แต่การแก้ปัญหาลักษณะนี้คงเกิดขึ้นยากในสังคมที่เร่งด่วนมีอิทธิพลต่อความรู้สึกนึกคิดของมนุษย์ จึงทำให้การตัดสินใจที่รวดเร็วโดยปราศจากการทบทวบถึงต้นตอ ถูกตัดออกไปจากสารระบบของกระบวนการคิด และเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้หลายๆคู่ต้องแยกทางกัน


ความคาดหวังยังวนเวียนอยู่ในความคิดของเราตลอดเวลา มนูษย์คงอยู่ไม่ได้หากปราศจากความคาดหวัง และคงปฏิเสธไม่ได้ที่จะอยู่โดยไม่มีความสมหวัง หรือความผิดหวัง  แต่หากเราสามารถเลือกที่จะปลดโซ่ตรวนออกจากความคาดหวังเพื่อแปลงสภาพให้ความต้องการเหลือเพียงแค่ "ความหวัง" ความหวังจะเป็นแรงผลักดันให้เราเผชิญหน้าต่อปัญหาและอุปสรรคต่อไป ความหวังทำให้เราไม่ต้องคาดคะเนหรือกังวลถึงผลลัพธ์ ความหวังทำให้เรายอมรับความสมหวังและผิดหวังได้ทุกสถานการณ์  ความหวังไม่มีเหตุผลไปเปลี่ยนแปลงสรรพสิ่งรอบตัว ความหวังเกิดขึ้นที่ตัวเรา ปรับเปลี่ยนที่ตัวเรา และดับที่ตัวเรา 


จงทำความรู้จักกับความหวังให้มากขึ้นทุกๆวัน เผื่อวันใดวันหนึ่งเราจะมีชีวิตที่ดีขึ้นตลอดกาลและตลอดไป





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

มิงกะลาบา ความหวังใหม่ใต้เปลือกตา

มิงกะลาบา ความหวังใหม่ใต้เปลือกตา

ล้านนาแค่ขยิบตา

ล้านนาแค่ขยิบตา
บันทึกการเดินทางจำนวนสิบสี่ตอนที่จะเปลี่ยนมุมมองทุกการเดินทางให้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

Ads

Most Popular