Beyond Creative, We do

FB:Theexplorerphotographer

test

วันพุธที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

เงิน(มันมี)สองด้าน



"หากเราไม่สามารถจะหลีกหนีปัจจัยสี่ที่เงินสามารถซื้อได้ทุกอย่างแล้ว ก็จงเป็นผู้ที่ใช้เงิน ไม่ใช่ให้เงินมันใช้เรา "

เมื่อเราเกิดเป็นมนุษย์ทุกคนย่อมมีหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายแตกต่างกันไป  แต่ถ้าลองมองถึงจุดมุ่งหมายที่จะทำให้ตัวเองมีความสุขในบั้นปลายของชีวิตคงหนีไม่พ้นการมีทรัพย์สินที่มากพอที่พอจะช่วยเหลือตัวเองและครอบครัวในยามที่แก่ชราลง เงินจึงเป็นตัวแทนหลักที่เราถูกสั่งสอนตั้งแต่เล็กจนโตว่า จงตั้งใจเรียนหนังสือเพื่อที่จะสอบเข้ามหาวิทยาลัยชื่อดังๆ และได้ทำงานในบริษัทดีๆ เงินเดือนมากๆ ซึ่งนั่นคงเป็นความคิดที่ถูกต้อง ถ้าบุคคลคนนั้นสามารถบรรลุในเป้าหมายและความสำเร็จตามที่ตนเองตั้งไว้โดยเร็ว หรืออาจคงเป็นเพราะว่ามนุษย์ยังคงต้องดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยปัจจัยสี่ที่หาซื้อได้ง่ายๆด้วยเงิน จึงทำให้เราต้องให้เงินเป็นตัวแทนของความสุขสบาย






ถ้าลองสังเกตสังคมเมืองในยุคปัจจุบันจะเห็นได้ว่าแฟชั่น หรือเทคโนโลยีเริ่มมีบทบาทเข้ามาทำให้เป้าหมายของการมีชีวิตบันปลายที่มีความสุขของเราเคลื่อนห่างออกไปอยู่เสมอๆ แฟชั่นเสื้อผ้าราคาแพงยังคงได้รับความนิยม พอๆกับโทรศัพท์มือถือที่สามารถตอบสนองความสะดวกสบายให้กลับชีวิต แถมยังเป็นเครื่องหมายในการเข้าสังคมได้อีกด้วย ยิ่งเราตัดกำลังตัวเองโดยการให้สิ่งที่ไม่จำเป็นเหล่านี้เข้ามาขัดขวางแผนการในความสำเร็จนี้เมื่อไหร่ ความเหน็ดเหนื่อยที่เกิดขึ้นจากการหา "เงิน" ก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น แน่นอนถ้าเราได้มันมาจากความทุกข์ก่อนแล้วเปลี่ยนเป็นความสุข มันคงเป็นช่วงเวลาที่แสนสาหัสของเราแน่ๆ เชื่อได้ว่าบางคนให้ความสำคัญกับการวางรากฐานของชีวิตตัวเองโดยการทุ่มเทหาเงินเพื่อมาสร้างฐานะตัวเอง หลายๆคนคงคิดเช่นเดียวกับผมว่า ตอนนี้เราอยู่ในวัยทำงานที่กำลังสามารถทำมาหาเงินได้อยู่ จึงพยายามหักโหมตัวเองเพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการวางรากฐานของตัวเองให้เร็วที่สุด จึงไม่แปลกที่จะเห็นวัยรุ่นหลายๆคนมีคอนโดเป็นของตัวเอง มีรถที่ตัวเองแลกมาด้วยหยาดเหงื่อแรงกายตั้งแต่อายุยังน้อย




แนวทางที่น่าจะเป็นตัวเลือกหนึ่งที่สามารถนำมาใช้กับการดำรงชีวิตของสังคมเมืองได้ดีที่สุด คือต้องรู้จักคำว่าพอ ควรรู้ได้ด้วยตัวเองว่าการดำรงชีวิตต้องพึ่งสิ่งที่สำคัญอย่างปัจจัยสี่เป็นหลัก อันได้แก่ อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย ยารักษาโรค  ปัจจัยที่เพิ่มมาอย่างบ้านที่เลิศหรู รถยนต์สปอร์ตราคาแพง รวมทั้งความสุขชั่วประเดี๋ยว ถ้าเลี่ยงได้จงเลียง หากเป็นไปได้ลองเปลี่ยนจาการได้รับความสุขที่เกิดจากวัตถุ เป็นการหาความสุขที่กำลังเกิดขึ้นอยู่รอบๆตัวเรา อย่างหนังสือซักเล่มในธรรมชาติที่แสนร่มลื่น ซึ่งเหล่านี้ไม่ต้องเสียเงินราคาแพง ไม่ทำลายมลพิษ ไม่ได้ใช้เวลาทั้งชีวิตในการตามหา และยังทำให้เราสามารถบรรลุถึงเป้าหมายของชีวิตที่ง่ายขึ้นอีกด้วย




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

มิงกะลาบา ความหวังใหม่ใต้เปลือกตา

มิงกะลาบา ความหวังใหม่ใต้เปลือกตา

ล้านนาแค่ขยิบตา

ล้านนาแค่ขยิบตา
บันทึกการเดินทางจำนวนสิบสี่ตอนที่จะเปลี่ยนมุมมองทุกการเดินทางให้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

Ads

Most Popular