Beyond Creative, We do

FB:Theexplorerphotographer

test

วันอาทิตย์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

ทำ-ทัน-ที




คำว่า "เหตุผล" กับ "ข้ออ้าง" ความหมายของมันอาจจะใกล้เคียงกันนิดเดียว เมื่อลองใช้มันสมองที่ธรรมชาติสร้างสรรค์มาให้มนุษย์อย่างเราๆไตร่ตรองดู ก็จะพบว่ามนุษย์เราสามารถตีความจาก สิ่งที่ได้เห็น สิ่งที่ได้ฟัง หรือสิ่งที่ได้อ่าน ออกไปเป็นผลลัพธ์ได้เกือบร้อยแปดพันก้าวอย่างภายในเวลาเพียงเสี้ยววินาที 

บางทีภาพที่เกิดขึ้นในหัว ก็อาจถูกแต่งเติมและคลุกเคล้าไปด้วยประสบการณ์ที่มีทั้งดีและร้ายปะปนกันก่อนที่จะเริ่มประมวลผลหาคำตอบสุดท้ายเสียอีก ซึ่งในบางการรับรู้ก็ทำให้มนุษย์อย่างเรานั้นตีความหมายของการสื่อสารนั้นออกไปได้อีกตั้งหลากหลายความเข้าใจ หากจะริเริ่มทำสิ่งนี้จะดีไหม จะเดินตามรอยเท้าคนอื่นจะไหวหรือไม่ หรือจะยอมลดละเพื่อเริ่มต้นคิดใหม่อีกครั้ง ประตูทางออกดูช่างเกิดขึ้นมากมายกว่าตอนเดินเข้ามา และไม่ว่าคำตอบสุดท้ายจะไปที่บานไหน ก็คงต้องเลือกสรรมันขึ้นมาเอง

"เหตุผล" ที่แท้จริงกับ "ข้ออ้าง" ที่ถูกยกยอขึ้นมา อาจทำให้ความทะเยอทะยานอันสูงสุดสะดุดลง เราอาจล้มเหลวตั้งแต่ที่ยังไม่ได้ริเริ่ม หรือไม่บางทีเราก็อาจจะกลัวเกินไปกว่าเหตุปัจจัยที่จะสนับสนุนบนความคิดนั้น เราเลือกที่จะจมจ่ออยู่กับปัญหาให้นานขึ้น เพื่อหวังว่าจะพบกับคำตอบที่ดีที่สุดในช่วงสุดท้าย ทว่าเราอาจหลงลืมไปว่าเวลาไม่เคยรอท่า การปล่อยเวลาให้สูญเปล่าไปโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ อาจหมายถึงการที่เรายังคงกลัวเกินกว่าจะกล้าสะสางปัญหานั้นให้หมดไป

จอห์น ดิวอี้ นักปรัชญาและนักเขียนชาวอเมริกันกล่าวไว้ว่า “ถ้าอธิบายปัญหาได้ชัดเจน ก็เท่ากับแก้ปัญหาไปแล้วครึ่งหนึ่ง” หากส่วนใหญ่แล้วมนุษย์เรายังคงไม่ชัดเจนกับการตีความและขุดหาประเด็นของปัญหาหนึ่งๆเสียด้วยซ้ำ ไม่แปลกเลยถ้าวันนี้เราจะขึ้นหัวข้อบนกระดานเพื่อให้สมองระดมความคิดหาหนทางแก้ไขปัญหาหนึ่งๆ แต่กลับกันที่สุดท้ายแล้ว เรากลับพบว่าประเด็นที่กล่าวไว้ข้างต้นถูกละเลยไปแถมกลับแตกแขนงกลายเป็นปัญหาย่อยข้ออื่นๆที่ต้องทำการระดมสมองกันต่อไปอีกเรื่อยๆ

เราจะชัดเจนกับตัวเองก็ต่อเมื่อเราสามารถบอกความชัดเจนของปัญหาเหล่านั้นได้อย่างตรงประเด็น เมื่อค้นพบเหตุผลที่พอจะบอกความชัดเจนได้จำนวนหนึ่ง เราจะเริ่มตัดข้อแขนงย่อยๆที่ไม่ได้สลักสำคัญทิ้งออกไป เราจะเริ่มเข้าใจว่าความคิดเบี้ยบ้ายรายทางที่เกิดขึ้นจากการประมวลผลอันซับซ้อนในวันก่อนช่างดูไร้สาระและเสียเวลาสิ้นดี เมื่อเริ่มเห็นหนทางข้างหน้าที่สดใสกว่า เราจึงกล้าที่จะปลดโซ่ตรวนออกจาก "ข้ออ้าง" ที่ไม่มีเหตุผลอันหนักแน่นรองรับได้นั้น แล้วพุ่งทะยานไปสู่ความสำเร็จอีกครั้งเสียที

อาจเป็นความน่าอัศจรรย์ ที่ธรรมชาติได้สร้างสรรค์ให้มนุษย์เรามีความสามารถพิเศษในการระดมความคิดก่อนที่จะตัดสินใจลงมือทำ แต่ก็เป็นความยากลำบากสำหรับผู้คนที่มากไปด้วยประสบการณ์ร้ายๆในชีวิต ที่ทำให้เขาจำต้องติดกับดักคิดมาก จำต้องคิดให้หลากหลาย หรือต้องพยายามคิดจนฝุ่นตลบอบอวล เขาอาจใช้เวลาไปเกือบค่อนชีวิตเพื่อลงมือทำบางสิ่ง ทว่าความสำเร็จในวันข้างหน้ากลับไม่ได้เกิดขึ้นจากการคิดให้มากที่สุดเท่าที่เขาควรจะหามาได้ กลับกันที่ความสำเร็จนั้นได้ท้าทายให้ผู้ที่ลงมือทำ กล้าที่จะเดินเข้าหาอุปสรรค แก้ปัญหาด้วยการลองผิดลองถูก และกล้าที่จะลงมือทำทั้งๆที่ยังมีความกลัวอยู่เต็มหัวใ

ไม่ว่าสุดท้ายแล้วเราจะหา "เหตุผล" หรือ "ข้ออ้าง" ได้มากกว่ากัน ทว่าการกล้าตัดสินใจในครั้งนั้นจะสามารถยุติปัญหาลงได้เมื่อเราลงมือทำในทันที ขมวดข้ออ้างไว้ใต้พรม แล้วหาเหตุผลดีๆมารองรับสิ่งที่เราได้ก้าวผ่านมันไปแล้ว อย่างน้อยเราก็ได้ออกเดินไปบนทางที่มืดมัวบ้างแล้ว ดีเสียกว่าการครุ่นคิดมากมายจนไม่ได้ขยับตัว แถมปล่อยเวลาอันแสนจำกัดให้หมดลงไปอย่างถาวร 
แม้สมองของเราจะไม่สามารถแก้ไขอุปสรรคต่างๆนานาได้ในทันที แถมระบบความจำยังคงสะสมความคิดที่ค้างคาได้นานเสียอีก หนทางที่จะแก้ตัวต่อปริศนานี้อาจจำเป็นต้องอาศัยการลงมือทำแบบลองผิดลองถูกให้มากเข้าไว้ ลงมือทำในทันทีที่สมองประมวลผลว่าถูกว่าควรทำ ลงมือทำให้เห็นผลลัพธ์ข้างหน้าว่าเราควรจะไปต่อหรือเบนเข็มไปอีกทิศทาง ลงมือทำเพื่อที่จะได้รู้ว่าหนทางข้างหน้ามันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่เราตีความจากประสบการณ์

แล้วสักวันหนึ่งเราจะเก่งกล้าจนสามารถละทิ้งข้ออ้างป่วยๆที่ทำให้เราไม่ก้าวเดินต่อไปไหนมาแสนนาน กระเทาะเปลือกแย่ๆให้หลุดออกไปจากรากฐานของความคิด ในวันนั้นเราจะออกเดินไปค้นพบกับความหมายที่สวยงามในชีวิตอีกครั้ง บนเหตุผลและข้อสนับสนุนที่จริงแท้ของตัวเอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

มิงกะลาบา ความหวังใหม่ใต้เปลือกตา

มิงกะลาบา ความหวังใหม่ใต้เปลือกตา

ล้านนาแค่ขยิบตา

ล้านนาแค่ขยิบตา
บันทึกการเดินทางจำนวนสิบสี่ตอนที่จะเปลี่ยนมุมมองทุกการเดินทางให้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

Ads

Most Popular