Beyond Creative, We do

FB:Theexplorerphotographer

test

วันอาทิตย์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

ยิ่งหาย-ยิ่งหา



(1)
กี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่เราปล่อยทิ้งความตั้งใจอันแน่วแน่ทิ้งเอาไว้บนกลางทาง ความมั่นใจอันเด็ดเดี่ยวและความกล้าหาญที่เราเคยปฏิญาณเอาไว้อย่างมาดมั่น ว่าวันพรุ่งนี้ทุกๆอย่างในชีวิตจะต้องเปลี่ยนแปลงไปให้ได้อย่างที่ใจอยากจะให้เป็น แต่จนแล้วจนเล่าเราก็กลับโดนมรสุมที่ไม่คาดฝันในชีวิตถาโถมเข้ามาใส่แทนที่ความวาดหวังอันสูงสุดนั้น เรากำลังโดนพัดพาไปแบบไม่รู้ทิศรู้ทาง และไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้วชีวิตจะไปจบลงตรงที่แห่งใด

ความเชื่อในคำปฏิญาณก่อนหน้าดูจะยังไม่ส่งผลต่อการปฏิบัติในวันนี้ เหตุเป็นเพราะความคิดลบๆที่ถูกนำมาเติมแต่งมันมากโขกว่าไอเดียสร้างสรรค์ที่พยายามจะสรรค์สร้างขึ้นมาในชีวิตประจำวัน สุดท้ายแล้วเราก็ตกอยู่ในวังวนชีวิตที่คิดไม่ออก "หนีปัญหาไปซะ" น่าจะเป็นคำตอบสุดท้ายเพื่อยุติเรื่องราวอันพัลวันเรื่องนี้

ทว่ายิ่งหนีเรากลับยิ่งค้นพบว่าสิ่งนั้นยังตามหลอกหลอน ยิ่งเดินทางออกไปไกลเท่าไรเราถึงรับรู้ว่าความสุขนั้นช่างแสนสั้นและมีอายุอยุ่ได้เพียงชั่วคราว สิ่งแวดล้อมใหม่ๆชวนให้เราตื่นหูตื่นตากับอะไรก็ตามที่ไม่เหมือนเดิม

การเดินทางได้สร้างช่วงเวลาอันน่าประทับใจและอยากจะหยุดมันเอาไว้ให้นานๆ ทว่าเมื่อเวลาผ่านไปได้ไม่กี่เดือนหลังจากการเดินทางจบลง เราดันหลับมาโหยหาความสุขแบบนั้นอีกครั้ง ในวันที่เราเริ่มทุกข์ระทมกับบทบาทชีวิตแบบเดิมๆ

(2)
"ยิ่งหา-ยิ่งหาย" ถือเป็นวลีเด็ดที่แปลความหมายของชีวิตให้เป็นแบบวนลูปซ้ำไปซ้ำมาอยู่อย่างไม่รู้จบ คล้ายกับระบบอัลกอริทึมของชีวิตจะไม่สามารถค้นหาตัวเองหรือประกอบรูปร่างให้ออกมาเป็นความต้องการของตัวเองได้เลย

เราไม่สามารถแยกแยะสิ่งที่ต้องทำก่อนหลังได้ ในเวลาที่มีผู้คนมากมายเข้ามากดดันอย่างเห็นได้ชัด เราไม่สามารถลำดับชีวิตที่รวดเร็วหรือเชื่องช้าได้เลยในช่วงเวลาที่รู้สึกกดดันตัวเอง

บนความต้องการอันแตกต่างในชีวิตของคนเรา ย่อมส่งผลให้ชีวิตต่างดำเนินไปยังเส้นชัยที่ตั้งไว้อย่างไร้จุดหมาย เราไม่มีทางรู้หรอกว่าตัวตนในวันหนึ่งๆจะถูกสิ่งเร้าชักชวนให้ออกนอกลู่นอกทางไปถึงไหนต่อไหน จะหยุดลงมือทำสิ่งที่ตั้งใจ หรือจะถูกซัดให้ออกไปไกลจากเป้าหมายอีกกี่ครั้ง เส้นทางจากจุดเริ่มต้นไปยังเส้นชัยจึงดูห่างออกไปจนกว่ากระบวนการรักษาสมดุลของชีวิตจะส่งเสียงเตือน

หากเปรียบได้กับการส่งตัวเองเข้าลู่วิ่งระยะทาง 10 กิโลเมตร ความเหนื่อยล้าจากกิโลเมตรแรกก็สามารถปั่นทอนให้ล้มเลิกความมุ่งมั่นที่อยากจะไปให้ถึงยังเส้นชัยได้โดยง่าย และยิ่งมีเวลาเข้ามาเป็นตัวบีบคั้น ว่าเราจะต้องไปให้ถึงเส้นชัยที่ 10 กิโลเมตรให้ได้ในเวลาหนึ่งชั่วโมงครึ่งแล้วละก็ ความดื้อรั้นลึกๆที่อยู่ในสมอง จะสั่งการให้เราเกิดความอึดอัดในใจ แถมยังคอบก่นด่าสภาพร่างกายตัวเองที่ไม่ฟิตพอ กำลังขาจะเริ่มอ่อนลง สุดท้ายสมองก็จะสั่งการให้เราเข้าใจไปว่า 5 กิโลเมตรในวันนี้ก็เพียงพอแล้วต่อความสามารถที่เรามี

เกิดเป็นคำถามขึ้นมาว่า "หากไม่มีเวลาหนึ่งชั่วโมงครึ่งมากำหนด" เราจะยังวิ่งเยาะๆต่อไปให้ถึงเส้นชัยที่ 10 กิโลเมตรไหม

เมื่อไม่มีความกดดัน กำลังขาของเราจะค่อยๆส่งสัญญาณไปยังความคิดบวกๆของตัวเองว่า ไม่ต้องรีบไม่ต้องร้อน เหนื่อยก็พักกินน้ำกินท่า วิ่งบ้างเดินเร็วบ้างสลับกันไป เราจะเริ่มเสาะหาวิธีวิ่งแบบที่ผ่อนคลายสลับกันไป จบตรงเวลาหนึ่งชั่วโมงกับอีกสี่สิบห้านาที แล้วเราก็ได้ระยะทางวิ่งสลับเดินกลับมาที่ 11 กิโลเมตรแบบเบาๆ

(3)
ความกดดันทำให้เราไปสู่จุดหมายได้เร็ว แต่มันก็ทำให้เราล้มเลิกกลางคันได้เช่นกัน

บ่อยครั้งที่ผมกลับมาคิดทบทวนถึงการเดินทางอันแสนวิเศษที่เพิ่งผ่านพ้นไป พร้อมๆกับเสาะหาความสุขที่เราได้ทำหล่นหายไปในช่วงเวลานั้น

ผมกลับมาค้นพบภายหลังว่าทุกๆนาทีที่อยู่ร่วมกันนั้นช่างมีความหมาย ความสุขนั้นมันไม่เคยหายไปไหนเลย เราต่างร่วมสร้างสรรค์เรื่องราวเหล่านั้นเอาไว้ในสถานที่แห่งหนึ่ง เมื่อเรากลับมาความรู้สึกนั้นก็ยังจะคงอยู่เสมอไม่เปลี่ยนแปลงไปเลย

ทว่าวันนี้เราเพียงเผชิญหน้ากับความกดดันจากปัจจุบัน ความกดดันในชีวิตที่ถูกสร้างขึ้นมาจากตัวเราเอง หากเราทำได้แค่เพียงปล่อยวางสิ่งที่ไม่สลักสำคัญในชีวิตไปบ้าง ค่อยๆตั้งสติแล้วกลับมาโฟกัสกับความรู้สึกดีๆที่เรายังคงเหลือมันเอาไว้ในความทรงจ

ภาพชายหนุ่มตะกายหน้าต่างบานน้อยถูกถ่ายโดยผู้ร่วมทางของผม เป็นหนึ่งในบรรดาภาพถ่ายที่ผมชื่นชอบและอิ่มเอมใจทุกครั้งที่ได้เปิดภาพนี้ขึ้นมาดู ชายหนุ่มกำลังค้นหาบางสิ่งที่หายไปจากชีวิตปัจจุบัน ทว่ายิ่งหาเท่าไรเขากลับไม่พบสิ่งที่เขาตามหาเสียที

หรือบางทีเพียงแค่เขาหยุดค้นหา หยุดกดดันตัวเอง แล้วมองกลับมายังจุดโฟกัสที่เขาเพิ่งจะละสายตาจากมา บางทีชายหนุ่มคนนั้นอาจจะค้นพบกับความสุขที่ขาดหายไปจากปัจจุบัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

มิงกะลาบา ความหวังใหม่ใต้เปลือกตา

มิงกะลาบา ความหวังใหม่ใต้เปลือกตา

ล้านนาแค่ขยิบตา

ล้านนาแค่ขยิบตา
บันทึกการเดินทางจำนวนสิบสี่ตอนที่จะเปลี่ยนมุมมองทุกการเดินทางให้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

Ads

Most Popular