Beyond Creative, We do

FB:Theexplorerphotographer

test

วันอาทิตย์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

ชีวิตต้องออกเดิน (ด้วย) ทางของตัวเอง



"GO LIVE FOLLOW YOUR LIFE"

เราอาจฝันถึงตอนจบของชีวิตในวัยหกสิบ ในวันวัยที่เราต่างละทิ้งสิ้นทุกสิ่งทุกอย่างรวมถึงความฝัน ไม่มีแล้วความทะเยอทะยาน ความห้าวหาญ หรือความกล้าตัดสินใจในทุกๆเรื่องที่ผ่านมา ประสบการณ์ที่ผ่านพ้นมาเนิ่นนานนั้น กำลังส่งเสียงร้องบอกให้เราค้นหาความหมายของชีวิตในวัยหกสิบอีกครั้ง หลังจากที่ผ่านพ้นสงครามอันหนักหน่วงในชีวิตที่แสนสาหัสไป

ประสบการณ์สอนให้เรากล้าที่จะออกเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นใจ เราต่างสั่งสมประสบการณ์ได้จากการเรียน ทำงาน และท่องเที่ยวไปในสถานที่แห่งใหม่ จุดเปลี่ยนของชีวิตอาจถูกค้นพบในดินแดนที่อยู่ห่างไกล หรืออาจถูกค้นพบข้างในหัวใจ เราต่างไม่รู้หรอกว่าปริศนาตัวนั้นแอบซ่อนอยู่ที่ไหน จนกว่าเราจะทดลองด้วยการทำถูกให้มากกว่าทำผิด แล้วรีบตัดสินใจมุ่งตรงไปในเส้นทางนั้นที่เราเลือกเอง

ภาพที่สวยงามยังคงตราตรึงอยู่ในการเดินทางในวันก่อน สถานที่พักผ่อนหย่อนจิตใจของเราอยู่ไม่ไกลจากที่พักในย่านซีเหมินนัก ผม หญิงสาว และน้องชายอีกคน ค่อยๆใช้เวลาอันเชื่องช้านี้สัมผัสกับบรรยากาศการมาเยือนไต้หวันครั้งแรก ผ่านการนั่งรถไฟสายสีแดงเกือยครึ่งชั่วโมงจนถึงสถานี Beitou

จากสถานี Beitou ไป Xinbeitou เส้นสีชมพูใช้เวลาไม่นานนัก ทว่าความเชื่องช้าของรถไฟสายสีชมพูนี้ชวนให้เราต้องรีบสอดส่องออกไปมองวิวทิวทัศน์นอกหน้าต่าง เพื่อเชยชมความงามของเส้นทางที่ผ่านมา เราจึงได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศเสียเต็มที่ก่อนจะออกไปสัมผัสกับสถานที่ใหม่ๆแห่งนี้ แถมยังได้มีเวลามาทบทวนแผนการเดินผ่านช่วงเวลาที่เชื่องช้านั้น

จุดหมายปลายทางของสถานที่ที่เราจะไปนี้ อยู่ปลายสุดของแผนที่ที่เรามี สถานที่ที่ถือว่าเป็นจุดพักผ่อนสุดท้ายอยู่ที่ Thermal Valley หรือ "หุบเขานรก" จากการที่ได้ศึกษาเส้นทางเส้นนี้มาได้สักระยะ ผมก็พบว่า เส้นทางเดินเท้าเส้นนี้มีทางลัดซับซ้อนซ่อนอยู่มากมาย แต่เอาเข้าจริง สุดท้ายแล้วเราก็เลือกเดินกันบนนไหล่ทางแบบไม่มีหลงทางแน่ๆ และก็คิดว่าขากลับเราจะลองเปลี่ยนเส้นทางดู

จนถึงที่หมายเราถึงรู้ว่าธรรมชาตินั้นสวยงามกว่าที่ตามองเห็นในภาพถ่ายของคนอื่น น้ำแร่สีมรกตพ่นควันออกมาเป็นระยะๆ ชวนให้เรารู้สึกอบอุ่นในบรรยากาศที่หนาวเหน็บ พวกเราเริ่มถอดเสื้อกันความหนาวแล้วเก็บใส่กระเป๋า ความอบอุ่นจากไอน้ำที่ได้รับก็เพียงพอทำให้ร่างกายตื่นฟื้นขึ้นมาจากการครึ่งหลับครึ่งตื่นที่สนามบินเมื่อคืน

ไม่นานนักก็ดูเหมือนว่าเยื่อจมูกของเราจะเริ่มได้รับกลิ่นฉุนๆ อาจเป็นเพราะลมหนาวที่พัดเข้ามาในบริเวณนี้เริ่มกอบโกยสารระเหยจากผืนน้ำเข้ามาหาโซนที่นักท่องเที่ยวยืนถ่ายรูปกันอยู่ สารระเหยกำมะถันจากผืนดินเริ่มทำให้เยื่อจมูกเราเริ่มเคืองๆขึ้นมาแล้ว ยิ่งสูดอากาศเข้าไปมากเท่าไร เราจึงเริ่มรู้แล้วว่าที่นี่ไม่ใช่ที่พักพิงที่สุดท้ายแน่ๆ คงถึงเวลาต้องรีบออกจากสถานที่พักผ่อนหย่อนใจแห่งนี้ แล้วไปพบกับสถานที่ใหม่ๆที่รออยู่ข้างหน้า ด้วยสองเท้าที่ก้าวไปบนทางของเราเอง

เราเดินกลับด้วยเส้นทางใหม่ที่ไม่ได้อยู่ในแพลน ลัดเลาะเก็บเกี่ยวภาพความทรงจำไว้กันเอาไว้ในกล้องถ่ายภาพกันอย่างมากมาย เราเจอทางลัด เราเดินวกกลับไปกลับมา เพื่อซึมซับบรรยากาศระหว่างเส้นทางที่ผ่านมา เราต่างเปลี่ยนแปลงมันเป็นประสบการณ์ที่สวยงามในวันที่เรายังมีแรงเดินด้วยลำแข้งของตัวเอง

ผมกลับมาขบคิดถึงตัวเองในร่างคนอายุหกสิบ หากประสบการณ์ได้สั่งสอนชีวิตก็กล้าลุกและกล้าออกเดินทางไปอย่างไม่ต้องเกรงกลัวภัยอันตราย เมื่อออกเดินแล้วก็แค่ก้าวต่อไป ในเมื่อยังมีเรี่ยวแรงที่เหลือมากมายถึงเพียงนี้แล้ว จะหยุดอยู่กับที่เพื่อรอคอยประสบการณ์ชีวิตใหม่ๆที่มันไม่มีเท้าก้าวเข้ามาหาเราหรือไร 

ในวัยที่มีความฝันเราต่างมุ่งมั่นเพื่อเดินไปให้ถึงยังจุดมุ่งหมาย เมื่อรู้ระยะก้าวที่เหมาะสมเราจึงลด-เร่งฝีเท้าแล้วออกเดินก้าวไปต่อไป หากตัวเรายังคงถ่มน้ำลายใส่ตัวเองว่า "ไม่มีทางเลือก" ชีวิตนี้คงจบลงไปอย่างไม่มีราคา ลองเงยหน้าแกว่งแขวน ก้าวเท้าที่ถนัดไปข้างหน้า แล้วสร้างความฝันนั้นให้เป็นความจริงเสียที

ก่อนที่จะหมดฝันในวัยหกสิบ เราต่างหวังว่าชีวิตจะต้องออกเดินบนทางของตัวเอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

มิงกะลาบา ความหวังใหม่ใต้เปลือกตา

มิงกะลาบา ความหวังใหม่ใต้เปลือกตา

ล้านนาแค่ขยิบตา

ล้านนาแค่ขยิบตา
บันทึกการเดินทางจำนวนสิบสี่ตอนที่จะเปลี่ยนมุมมองทุกการเดินทางให้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

Ads

Most Popular