สูท
(1)
สูท...คุณคิดว่าไม่สำคัญ
เมื่อใส่สูทตัวนั้นมันทำฉันสั่นไปถึงข้างใน
คุณเป็นคนใส่สูทคุณรู้บ้างไหม
ฉันหนาวฉันร้อนเหมือนดังเป็นไข้ ทุกที ทุกที
"จูบ" เพลงลูกกรุงใส่ท่วงทำนองแนวเซ็กซี่โรแมนติกที่เคยดึงดูดให้ติดหู ติดตา ติดปาก และติดใจใครอีกหลายคน
ครั้งล่าสุดที่ผมได้ยินทำนองเพลงนี้แว่วๆดังออกมาจากเครื่องเล่นแผ่นเสียงเก่าๆ ณ สถานที่แห่งหนึ่งที่ไม่ไกลจากรุงเทพมากนัก เพียงเครื่องดนตรีไม่กี่ชิ้นประกอบกับทุ้มน้อยทุ้มใหญ่ของคุณพิทยา ก็ยิ่งทำให้เพลงดูมีมนต์ขลังและอบอวลไปด้วยกลิ่นอายความรักของหนุ่มสาวสมัยนั้นได้เป็นอย่างดี
ยิ่งฟังยิ่งเคลิ้บเคลิ้ม ก็ยิ่งอดนึกไปถึงแนวเพลงที่เรากำลังนั่งฟังกันอยู่ที่วี่ทุกวันไม่ได้ ยิ่งมีเสียงซาวน์เอฟเฟคจากกีตาร์ดังซ่าๆ ผสมกับเสียงกระทุ้งหนังกลองถี่ๆ ก็มีแต่จะพาลทำให้หัวใจดวงน้อยๆเริ่มสูบฉีด ทั้งหัว ทั้งไหล่ และทั้งบั้นท้ายพร้อมโยกย้ายไปตามจังหวะนั้นอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว
ดูเหมือนว่าความแตกต่างระหว่างท่วงทำนองของทั้งสองยุคจะไม่ได้ส่งผลให้ระดับการเต้นของหัวใจแตกต่างกันมากนัก
จะมีอุปสรรคก็ตรงเนื้อหาและการพัฒนาการของภาษา ถ้าจะให้คนในยุคสมัยนี้เข้าใจง่ายหน่อยคงต้องจับเนื้อหาดั้งเดิมมาใส่สูทและผูกไทด์ให้ดูอินเทรนด์กันซักหน่อย
วันนี้ จูบ จึงถูกดัดแปลงจัดองค์ทรงเครื่องใหม่โดยการใส่สูท
ไม่ว่าเนื้อหาจะถูกทำให้ผิดเพี้ยนไปมากเท่าไหร่
ไม่ว่าจะจับจูบใส่สูทพับทบไปอีกกี่ชั้นก็ตาม
ความร้อนๆหนาวๆก็ไม่สามารถทำระคายเคืองต่อผิวหนังด้านในเฉกเช่นหัวใจ
เพราะความหมายของสิ่งนั้นกำลังจะถูกตีตราและมูลค่าให้ดูดีขึ้นมาในฉับพลันทันที หรือไม่ก็ตั้งแต่แรกเห็น
แค่คุณใส่สูทตัวนั้น
(2)
ไม่กี่วันที่ผ่านมาที่ผมพอจะมีเวลาว่างดูรายการหาคู่ชู้ชื่นอย่าง Take me out รายการส่งเสริมคุณภาพชีวิตครอบครัวคนโสด หรือไม่อย่างน้อยรายการนี้ก็ทำให้เรื่องราวของชาย+หญิงคู่หนึ่งได้มีจุดกำเนิดที่สามารถต่อยอดต่อไปได้จริง
เหล่าบรรดาชายโสดกว่า 30 คนพร้อมแต่งองค์ยกเครื่องประชันความดูดีมีสง่าราศี ไม่นานนักพิธีกรก็เปิดตัวปรัศนีย์สาวร่างน้อยออกมา ยิ่งทำให้บรรดาชายโสดต่างต้องใช้คารมคมคายเพิ่มเติมในการแข่งขันประชันขันต่อกันมากยิ่งขึ้น
เพียงวีดีโอพรีเซนต์เปิดเผยร่างจริงของหญิงสาวปรัศนีย์ได้ไม่นาน เหล่าบรรดาชายโสดแต่ละคนก็เริ่มดับไฟตัวเองลง
หลายครั้งที่ไฟแห่งโอกาสถูกปิด เพื่อแสดงความไม่ต้องการต่อปรัศนีย์ เมื่อความไม่ใช่ ไม่พร้อม ไม่ต้องการ เกาะกินอยู่ข้างในจิตใจ หากจะเปิดไฟต่อไปคงสิ้นเปลืองพลังงานมิใช่น้อย
ไม่นานนักก็ถึงเวลาที่ปรัศนีย์สาวจะต้องทำการเลือกชายโสดเพียงแค่หนึ่งในสองคน นั่นคงเป็นเวลาเดียวกับที่เทวดาน้อยคิวปิดกำลังส่งสัญญาณเตรียมยิงลูกศรเข้าไปปักยังที่หัวอกของคนทั้งสอง
ก่อนจบรายการทั้งคู่เดินจูงมือกันแน่น และออกไปไกลเกินกว่าที่ระยะโฟกัสของกล้องในห้องถ่ายทำจะจับภาพได้
หลังจากนี้คงไม่มีกล้องตัวไหนจะจับภาพเรื่องราวและความรู้สึกของคนสองคนนี้ได้อีกต่อไป คงจะมีแต่หัวใจของทั้งคู่ที่จะคอยจับภาพในระยะโฟกัสของตัวเองต่อไปจากนี้จนสุดทาง
ตั้งแต่ครั้งแรกที่สูทตัวใหญ่ทำให้ชายคนหนึ่งบนแท่นโพเดียมดูดี นั่นคงไม่ต่างจากสูทตัวใหม่ที่ทำให้ปรัศนีย์สาวดูมีมูลค่าในตอนต้น เมื่อทั้งคู่ต่างคนต่างเริ่มถอดมันออก พร้อมกับเผยร่างที่แท้จริงของตัวเองให้คนอื่นได้รับรู้ หากใครรับไม่ได้ก็แค่กดไฟซ่อนตัวหลบไป เหลือแค่เพียงดวงไฟดวงสุดท้ายที่ยังสว่างจ้าให้คนทั้งสองรับรู้กันเอง หลังจบรายการนี้ทั้งคู่จะเดินออกจากที่นี่แบบไม่มีเปลือกนอกที่ห่อหุ้มปิดบังหัวใจเอาไว้เลย
ทิ้งเพียงสูทสองตัวนั้นไว้ในห้องส่งต่อไป
(1)
สูท...คุณคิดว่าไม่สำคัญ
เมื่อใส่สูทตัวนั้นมันทำฉันสั่นไปถึงข้างใน
คุณเป็นคนใส่สูทคุณรู้บ้างไหม
ฉันหนาวฉันร้อนเหมือนดังเป็นไข้ ทุกที ทุกที
"จูบ" เพลงลูกกรุงใส่ท่วงทำนองแนวเซ็กซี่โรแมนติกที่เคยดึงดูดให้ติดหู ติดตา ติดปาก และติดใจใครอีกหลายคน
ครั้งล่าสุดที่ผมได้ยินทำนองเพลงนี้แว่วๆดังออกมาจากเครื่องเล่นแผ่นเสียงเก่าๆ ณ สถานที่แห่งหนึ่งที่ไม่ไกลจากรุงเทพมากนัก เพียงเครื่องดนตรีไม่กี่ชิ้นประกอบกับทุ้มน้อยทุ้มใหญ่ของคุณพิทยา ก็ยิ่งทำให้เพลงดูมีมนต์ขลังและอบอวลไปด้วยกลิ่นอายความรักของหนุ่มสาวสมัยนั้นได้เป็นอย่างดี
ยิ่งฟังยิ่งเคลิ้บเคลิ้ม ก็ยิ่งอดนึกไปถึงแนวเพลงที่เรากำลังนั่งฟังกันอยู่ที่วี่ทุกวันไม่ได้ ยิ่งมีเสียงซาวน์เอฟเฟคจากกีตาร์ดังซ่าๆ ผสมกับเสียงกระทุ้งหนังกลองถี่ๆ ก็มีแต่จะพาลทำให้หัวใจดวงน้อยๆเริ่มสูบฉีด ทั้งหัว ทั้งไหล่ และทั้งบั้นท้ายพร้อมโยกย้ายไปตามจังหวะนั้นอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว
ดูเหมือนว่าความแตกต่างระหว่างท่วงทำนองของทั้งสองยุคจะไม่ได้ส่งผลให้ระดับการเต้นของหัวใจแตกต่างกันมากนัก
จะมีอุปสรรคก็ตรงเนื้อหาและการพัฒนาการของภาษา ถ้าจะให้คนในยุคสมัยนี้เข้าใจง่ายหน่อยคงต้องจับเนื้อหาดั้งเดิมมาใส่สูทและผูกไทด์ให้ดูอินเทรนด์กันซักหน่อย
วันนี้ จูบ จึงถูกดัดแปลงจัดองค์ทรงเครื่องใหม่โดยการใส่สูท
ไม่ว่าเนื้อหาจะถูกทำให้ผิดเพี้ยนไปมากเท่าไหร่
ไม่ว่าจะจับจูบใส่สูทพับทบไปอีกกี่ชั้นก็ตาม
ความร้อนๆหนาวๆก็ไม่สามารถทำระคายเคืองต่อผิวหนังด้านในเฉกเช่นหัวใจ
เพราะความหมายของสิ่งนั้นกำลังจะถูกตีตราและมูลค่าให้ดูดีขึ้นมาในฉับพลันทันที หรือไม่ก็ตั้งแต่แรกเห็น
แค่คุณใส่สูทตัวนั้น
(2)
ไม่กี่วันที่ผ่านมาที่ผมพอจะมีเวลาว่างดูรายการหาคู่ชู้ชื่นอย่าง Take me out รายการส่งเสริมคุณภาพชีวิตครอบครัวคนโสด หรือไม่อย่างน้อยรายการนี้ก็ทำให้เรื่องราวของชาย+หญิงคู่หนึ่งได้มีจุดกำเนิดที่สามารถต่อยอดต่อไปได้จริง
เหล่าบรรดาชายโสดกว่า 30 คนพร้อมแต่งองค์ยกเครื่องประชันความดูดีมีสง่าราศี ไม่นานนักพิธีกรก็เปิดตัวปรัศนีย์สาวร่างน้อยออกมา ยิ่งทำให้บรรดาชายโสดต่างต้องใช้คารมคมคายเพิ่มเติมในการแข่งขันประชันขันต่อกันมากยิ่งขึ้น
เพียงวีดีโอพรีเซนต์เปิดเผยร่างจริงของหญิงสาวปรัศนีย์ได้ไม่นาน เหล่าบรรดาชายโสดแต่ละคนก็เริ่มดับไฟตัวเองลง
หลายครั้งที่ไฟแห่งโอกาสถูกปิด เพื่อแสดงความไม่ต้องการต่อปรัศนีย์ เมื่อความไม่ใช่ ไม่พร้อม ไม่ต้องการ เกาะกินอยู่ข้างในจิตใจ หากจะเปิดไฟต่อไปคงสิ้นเปลืองพลังงานมิใช่น้อย
ไม่นานนักก็ถึงเวลาที่ปรัศนีย์สาวจะต้องทำการเลือกชายโสดเพียงแค่หนึ่งในสองคน นั่นคงเป็นเวลาเดียวกับที่เทวดาน้อยคิวปิดกำลังส่งสัญญาณเตรียมยิงลูกศรเข้าไปปักยังที่หัวอกของคนทั้งสอง
ก่อนจบรายการทั้งคู่เดินจูงมือกันแน่น และออกไปไกลเกินกว่าที่ระยะโฟกัสของกล้องในห้องถ่ายทำจะจับภาพได้
หลังจากนี้คงไม่มีกล้องตัวไหนจะจับภาพเรื่องราวและความรู้สึกของคนสองคนนี้ได้อีกต่อไป คงจะมีแต่หัวใจของทั้งคู่ที่จะคอยจับภาพในระยะโฟกัสของตัวเองต่อไปจากนี้จนสุดทาง
ตั้งแต่ครั้งแรกที่สูทตัวใหญ่ทำให้ชายคนหนึ่งบนแท่นโพเดียมดูดี นั่นคงไม่ต่างจากสูทตัวใหม่ที่ทำให้ปรัศนีย์สาวดูมีมูลค่าในตอนต้น เมื่อทั้งคู่ต่างคนต่างเริ่มถอดมันออก พร้อมกับเผยร่างที่แท้จริงของตัวเองให้คนอื่นได้รับรู้ หากใครรับไม่ได้ก็แค่กดไฟซ่อนตัวหลบไป เหลือแค่เพียงดวงไฟดวงสุดท้ายที่ยังสว่างจ้าให้คนทั้งสองรับรู้กันเอง หลังจบรายการนี้ทั้งคู่จะเดินออกจากที่นี่แบบไม่มีเปลือกนอกที่ห่อหุ้มปิดบังหัวใจเอาไว้เลย
ทิ้งเพียงสูทสองตัวนั้นไว้ในห้องส่งต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น