ใครขโมย(กิน)ยางลบฉันไป
ยางลบก้อนเหมาะเจาะสมัยอนุบาลกำลังส่งกลิ่นหอมหวนรัญจวนหัวใจ ไม่ทันใดมือข้างที่ถนัดก็รีบง้าเอื้อมไปคว้าหมับเข้ามาใส่ปาก พร้อมด้วยอาการดูดดื่มบดเคี้ยวก้อนยางลบก้อนนั้นอย่างเอร็ดอร่อย
ก้อนซ้ายเป็นรูปรถถังกลิ่นเมล่อน ก้อนขวาดันปั้นเป็นรูปโดนัทกลิ่นชอคโกแลค อุปสรรคน้อยๆเหล่านี้ได้กลายมาเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ยางลบก้อนน้อยๆของผมจะต้องพบกับภัยอันตรายจนอันตธานหายไปก่อนที่จะได้เห็นขี้ยางลบเส้นสุดท้าย
เด็กๆทุกคนรู้ว่าการลักขโมยเป็นสิ่งที่ไม่ดี พวกเราจึงคิดค้นวิธีการอันแตกฉานสลักมันไว้บนยางลบ
คำพูดน่ารักๆอย่าง "ห้ามขโมยนะค่ะ"
หายบ่อยๆก็ยกระดับคำพูดเสียหน่อยว่า "ใครขโมยบ้านบึ้ม"
แต่ทุกครั้งยางลบก้อนหอมหวานของฉันก็ไม่เคยจะพ้นเงื้อมือของเจ้าหัวขโมยหน้าใสที่จะคอยมาย่องๆมองๆ แอบเปิดกรุกล่องดินสอมนุษย์ห้าสีเก่าๆพร้อมหยิบก้อนยางลบสภาพดีๆติดไม้ติดมือกันกลับไป
ไม่ใช่เพราะตัวอักษรบนยางลบมันไม่ชัดเจนหรอก
แต่ผิดที่ฉันเองที่ปล่อยให้กลิ่นหอมๆนั้นมันไปรบกวนจมูกเธอ
การออกตามล่ายางลบคืนยากเย็นยิ่งไปกว่าการเข็นครกขึ้นภูเขา
อีกทั้งยางลบก้อนเดิมก็ไม่ได้อยากจะส่งกลิ่นนำทางให้เจ้าของตามหามันเจอก็ได้
คงจะดีเสียกว่าหากเราเลิกโทษคนอื่น
และกลับมาคิดหาวิธีเปลี่ยนแปลงบางอย่างที่ตัวเราเอง
Haw และ Hem เคยฝากรอยฟันกัดยางลบให้ผมไว้เมื่อหลายปีก่อน
ผ่านตัวอักษรบนหนังสือเล่มหนึ่งที่มีชื่อว่า "Who moved my cheese?"
เนยแข็งในชีวิตของเราที่ต่างคนต่างปั้นความหมายไปต่างๆนานา
บางคนบอกว่าเนยแข็งก้อนนั้นคือความสำเร็จ
บางคนบอกว่าเนยแข็งก้อนนี้คือความสุข
บางคนบอกว่าเนยแข็งก้อนนู้นคือเป้าหมายของชีวิต
หากวันหนึ่งเนยแข็งชิ้นนั้น+นี้+นู้นหายวับไปกับตา
หัวใจที่เคยเบิกบานคงหลงเหลือแต่ความแห้งเหี่ยวบูดๆเบี้ยวๆปะปนอยู่กลับห้วงเวลาที่แสนเฉื่อยชานั้นไปอีกแสนนาน
เฉกเช่นกับ Haw ที่ไม่เคยจะหวั่นแม้วันมามาก
Haw ยังคงออกเดินตามหาเนยแข็งชิ้นที่ยังคงหลงเหลือต่อไป
แม้ซอกซอยหน้าจะยังมีแต่เศษเนยแข็งที่ใครๆได้ทำหล่นทิ้งไว้
แม้เขาวงกตจะดูมืดมิดและไร้สิ้นแสงเพียงใด
หัวใจของ Haw ยังคงเชื่อมั่นในทุกๆก้าวเสมอว่าจะต้องได้พบเจอ
จากวันนั้นที่ยางลบที่หอมหวานของเธอถูกขโมยไป
นี่คงไม่ใช่เวลาที่จะมานั่งเสียดายและครุ่นคิดว่าใครเป็นหัวขโมย
หัวขโมยที่เก่งฉกาจที่สุดก็คือตัวเธอเองนั่นแหละ
ก็เพราะหัวขโมยคนนี้ไม่ใช่หรอที่กำลังขโมย "เวลา" ที่แสนมีค่าไปจากเธอ
ยางลบก้อนเหมาะเจาะสมัยอนุบาลกำลังส่งกลิ่นหอมหวนรัญจวนหัวใจ ไม่ทันใดมือข้างที่ถนัดก็รีบง้าเอื้อมไปคว้าหมับเข้ามาใส่ปาก พร้อมด้วยอาการดูดดื่มบดเคี้ยวก้อนยางลบก้อนนั้นอย่างเอร็ดอร่อย
ก้อนซ้ายเป็นรูปรถถังกลิ่นเมล่อน ก้อนขวาดันปั้นเป็นรูปโดนัทกลิ่นชอคโกแลค อุปสรรคน้อยๆเหล่านี้ได้กลายมาเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ยางลบก้อนน้อยๆของผมจะต้องพบกับภัยอันตรายจนอันตธานหายไปก่อนที่จะได้เห็นขี้ยางลบเส้นสุดท้าย
เด็กๆทุกคนรู้ว่าการลักขโมยเป็นสิ่งที่ไม่ดี พวกเราจึงคิดค้นวิธีการอันแตกฉานสลักมันไว้บนยางลบ
คำพูดน่ารักๆอย่าง "ห้ามขโมยนะค่ะ"
หายบ่อยๆก็ยกระดับคำพูดเสียหน่อยว่า "ใครขโมยบ้านบึ้ม"
แต่ทุกครั้งยางลบก้อนหอมหวานของฉันก็ไม่เคยจะพ้นเงื้อมือของเจ้าหัวขโมยหน้าใสที่จะคอยมาย่องๆมองๆ แอบเปิดกรุกล่องดินสอมนุษย์ห้าสีเก่าๆพร้อมหยิบก้อนยางลบสภาพดีๆติดไม้ติดมือกันกลับไป
ไม่ใช่เพราะตัวอักษรบนยางลบมันไม่ชัดเจนหรอก
แต่ผิดที่ฉันเองที่ปล่อยให้กลิ่นหอมๆนั้นมันไปรบกวนจมูกเธอ
การออกตามล่ายางลบคืนยากเย็นยิ่งไปกว่าการเข็นครกขึ้นภูเขา
อีกทั้งยางลบก้อนเดิมก็ไม่ได้อยากจะส่งกลิ่นนำทางให้เจ้าของตามหามันเจอก็ได้
คงจะดีเสียกว่าหากเราเลิกโทษคนอื่น
และกลับมาคิดหาวิธีเปลี่ยนแปลงบางอย่างที่ตัวเราเอง
Haw และ Hem เคยฝากรอยฟันกัดยางลบให้ผมไว้เมื่อหลายปีก่อน
ผ่านตัวอักษรบนหนังสือเล่มหนึ่งที่มีชื่อว่า "Who moved my cheese?"
เนยแข็งในชีวิตของเราที่ต่างคนต่างปั้นความหมายไปต่างๆนานา
บางคนบอกว่าเนยแข็งก้อนนั้นคือความสำเร็จ
บางคนบอกว่าเนยแข็งก้อนนี้คือความสุข
บางคนบอกว่าเนยแข็งก้อนนู้นคือเป้าหมายของชีวิต
หากวันหนึ่งเนยแข็งชิ้นนั้น+นี้+นู้นหายวับไปกับตา
หัวใจที่เคยเบิกบานคงหลงเหลือแต่ความแห้งเหี่ยวบูดๆเบี้ยวๆปะปนอยู่กลับห้วงเวลาที่แสนเฉื่อยชานั้นไปอีกแสนนาน
เฉกเช่นกับ Haw ที่ไม่เคยจะหวั่นแม้วันมามาก
Haw ยังคงออกเดินตามหาเนยแข็งชิ้นที่ยังคงหลงเหลือต่อไป
แม้ซอกซอยหน้าจะยังมีแต่เศษเนยแข็งที่ใครๆได้ทำหล่นทิ้งไว้
แม้เขาวงกตจะดูมืดมิดและไร้สิ้นแสงเพียงใด
หัวใจของ Haw ยังคงเชื่อมั่นในทุกๆก้าวเสมอว่าจะต้องได้พบเจอ
จากวันนั้นที่ยางลบที่หอมหวานของเธอถูกขโมยไป
นี่คงไม่ใช่เวลาที่จะมานั่งเสียดายและครุ่นคิดว่าใครเป็นหัวขโมย
หัวขโมยที่เก่งฉกาจที่สุดก็คือตัวเธอเองนั่นแหละ
ก็เพราะหัวขโมยคนนี้ไม่ใช่หรอที่กำลังขโมย "เวลา" ที่แสนมีค่าไปจากเธอ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น