รอยยิ้มเปื้อนรูปถ่าย
ในวันที่เหนื่อยมากที่สุด ร้อนที่สุด เบื่อที่สุด เซ็งที่สุด ง่วงที่สุด ...... ที่สุด
สิ้นเสียงบ่นคำสุดท้าย ใบหน้าจางๆของเธอก็ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม
รอยยิ้มที่เป็นเหมือนการตอบสนองสัญญาณจากปุ่มชัตเตอร์บนกล้องมือถือ เสียงชัตเตอร์ลั่นปุ๊บรอยยิ้มจางๆจะกลับกลายเป็นรอยยิ้มเข้มๆเห็นไรฟันสวยๆได้อยู่เสมอ
ความไม่สบายกายไม่สบายใจทั้งมวลกลับถูกลบออกไปได้ทันทีหลังสิ้นเสียงชัตเตอร์ดัง
.. แชะ ! ..
ผมหันกลับมามองรูปถ่ายของเพื่อนๆในสมุดภาพเล่มโตสีเขียวเล่มหนึ่ง สมุดเล่มนี้สามารถบอกเล่าเรื่องราวความเป็นไปในอดีต ปัจจุบัน และอนาคตได้เป็นอย่างดี
ไม่ว่าจะพลิกสไลด์เปลี่ยนหน้าไปมากมายแค่ไหน รอยยิ้มที่เปื้อนอยู่บนรูปถ่ายยังคงปรากฏให้เห็นชัดเจนอยู่เสมอ
หากจะถามว่าเธอยิ้มให้ใคร เธอคงจะฉงนงงงวยสงสัยกับคำถามแบบนั้น
"ฉันยิ้มให้กล้องไง" เธอคงจะตอบอย่างมั่นใจ
"ฉันว่าไม่ใช่แค่กล้องหรอก ... " ฉันคงจะตอบอย่างไม่ลังเล
ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่ออย่างสนิทใจว่าอุปกรณ์อิเลคโทรนิคสมัยนี้สามารถสร้างรอยยิ้มพิมพ์ใจได้ง่ายดายนัก แค่เข้าโปรแกรมรูปกล้องกดลั่นชัตเตอร์แชะ โลกทั้งใบก็เป็นรอยยิ้มของนายทันที
ที่ว่ากันว่ารอยยิ้มของผู้คนสมัยนี้มองเห็นได้ยากเพราะการแข่งขันกันกินกันใช้สูง คงจะเป็นได้เพียงแค่สมมติฐานที่ถูกตั้งขึ้นโดยคนกลุ่มหนึ่ง การสุ่มตัวอย่างที่ไม่สมบูรณ์อาจจะไม่เห็นความงามของข้อเท็จจริงก็เป็นได้
ผมใช้สายตาสุ่มตัวอย่างขึ้นมาอีกครั้งจากสมุดเล่มเดิม พยายามกวาดตามองดูรูปถ่ายบนสมุดปกเขียวอย่างละเมียดละไมอีกสองสามครั้ง ทว่ารอยยิ้มนั้นยังคงถูกแปะอยู่อย่างถาวร
แม้รูปแบบของรอยยิ้มจะเปลี่ยนแปลงแค่ไหน
แม้รอยยิ้มนั้นจะถูกแปะไว้ที่สถานที่ใหม่ๆมากมายเท่าไหร่
แม้ไม่รู้ว่าผู้คนที่อยู่ในรอยยิ้มนั้นจะได้กลับมาพบกันอีกนานซักเท่าไร
รอยยิ้มที่เปื้อนรูปถ่ายนั้นยังคงดูมีความหวังเสมอ
จนกว่าจะพบกันใหม่
อีกครั้ง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น