วิชาเลือก(ชีวิต)เสรี
สัปดาห์นี้ดูเหมือนจะเป็นสัปดาห์แห่งการถูกดูดพลังงานชีวิตเสียเหลือเกิน ด้วยหน้าที่ความรับผิดต่อการงานที่ต้องทำทุกวัน การสานต่อความฝันของตัวเองในหลังเวลาเลิกงาน การวางแผนการเงินการลงทุนที่ดูเหมือนจะเป็นส่วนหนึ่งของกิจวัตรประจำวันไปเสียแล้ว
เวลาเหล่านั้นกลับกลืนกินช่วงเวลาที่ผมจะต้องใช้สร้างแรงบันดาลใจกับ "เจ้าหลังลาย" ชื่อของกีตาร์ตัวโปรดที่นอนแอ้งแม้งอยู่ในกระเป๋าสะพายสีดำ ตั้งแต่วันจันทร์ถึงศุกร์มันไม่ได้ออกจากกระเป๋ามาขับกล่อมบทเพลงให้หัวใจได้ชุ่มชื้นขึ้นเลย
โอกาสที่เหมาะสมที่สุดคงหนีไม่พ้นคืนวันหยุดเสาร์อาทิตย์อย่างนี้ ที่ทั้งเจ้ากีตาร์ตัวโปรดกับผมจะได้ร่วมบรรเลงบทเพลงใต้แสงดาว ที่สำคัญคืนนี้ยังแอบเห็นพระจันทร์ส่งยิ้มมากลายๆด้วย
แต่ก่อนจะรูดซิบหยิบเจ้าหลังลายออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์ก็เหลือบไปเห็นรูปภาพของบรรดาเพื่อนเก่าแก่สมัยมหาวิทยาลัยที่ได้ดิบได้ดีได้รับทุนไปศึกษาต่อ ณ ต่างบ้านต่างเมือง
แปลกใจที่ภาพที่ปรากฏนั้นไม่ใช่แค่รูปภาพอาหารหรือคำก่นบ่นละครหลังข่าวที่พบเห็นกันง่ายๆหลังสองทุ่ม
ภาพที่ปรากฏกลับกันภาพบรรดาหัวกะทิทั้งหลายเหล่านั้นสะพายกล้องติดเลนส์ตัวโตๆเดินไปตามแหล่งธรรมชาติ อารยธรรมที่กำลังบ่งบอกความเป็นเอกลักษณ์ของประเทศที่พวกเขากำลังอาศัยอยู่
บางคนยังสร้างเพจของตัวเองบนโลกโซเชียลที่ดูน่าตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างมาก
ผมโชคดีที่เพื่อนๆเหล่านี้ดันศึกษาอยู่หลายในประเทศ ทำให้หน้าเฟสบุ๊คของผมวันนี้มีรูปถ่ายธรรมชาติ ฝีมือขั้นเทพบวกกับความละเอียดระดับ HD จากโซนเอเซีย ยุโรป อเมริกาออกมาให้เชยชมกันอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
จนบางครั้งผมก็เชื่ออย่างสนิทใจว่าวิชาการถ่ายรูปคงถูกบรรจุไว้ในวิชาเลือกเสรีของเหล่าบรรดาเพื่อนๆนักเรียนนอกเหล่านี้ไปเสียแล้ว
หากมหาวิทยาลัยชีวิตที่เมืองนอกจะบรรจุวิชาบังคับเพียงอย่างเดียว ชีวิตนักเรียนไทยในต่างแดนคงดูขาดสีสันน่าดูชม
วิชาเลือกชีวิตเสรีจึงถูกเรียกร้องออกมาแรงบันดาลใจจากนักเรียนไทยหลายๆคน
คงไม่ใช่แค่นักเรียนไทยในต่างแดนที่ต้องการเลือกร้องให้มีวิชาเลือกใช้ชีวิตเป็นของตัวเอง พวกเราก็เช่นกัน
แม้บางวันเราจะถูกหน้าที่การงานกำหนดบดบังให้เรียนเฉพาะวิชาบังคับจนเกือบเต็มวันเข้าไปแล้ว แต่กลับกันหลังจบคาบวิชาบังคับยังมีรอยต่อของชั่วโมงแห่งการสร้างสรรค์ของเรา
จะดีมากแค่ไหนหากเราสามารถจัดการวิชาเลือกเสรีให้เป็นส่วนหนึ่งในการใช้ชีวิต แต่ถ้ายากนักก็ลองใช้เวลาหลังการเรียนวิชาบังคับมาต่อยอด "ความรู้"
ความรู้เป็นสมบัติที่ล้ำค่ากว่าสิ่งใดๆ และจะมีค่าสูงสุดถ้าเรารู้จักใช้มันทำในสิ่งที่ตนเองรัก
เห็นทีผมต้องขอเวลาไปเคาะสนิมเจ้าหลังลายที่นอนเงียบเหงาในกระเป๋าผ้าร่มมาเกือบทั้งอาทิตย์ ให้ออกมาส่งเสียงคำรามให้กึกก้องเสียหน่อยละครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น