เพราะอะไร
ระยะทาง ความห่างไกล เวลา จำนวนเงินในกระเป๋า รถยนต์คันหรู บ้านหลังโต เหตุผลดีๆที่มักถูกนำมาเชื่อมโยงเป็นข้ออ้างสำหรับความไม่พร้อมในการเริ่มต้นชีวิตคู่
ทั้งที่หลายๆคนต่างเชื่อกันว่าความรักเกิดขึ้นจาก ความรู้สึก ความเข้าใจ โชคชะตา พรหมลิขิต แต่กลับกันที่ทุกวันนี้เรายังคงมุ่งหาความสำคัญของเหตุผลในกระเป๋าสตางค์มากกว่าความรู้สึกที่เราควรอยู่ด้วยกัน
เมื่อสองเดือนก่อนผมได้นัดเจอเพื่อนคนหนึ่ง เพื่อนคนนี้เป็นอดีตนักร้องนำคู่หูดูโอ้ของผมสมัยเรียน ทางเดินมันเริ่มแยกตรงที่ไอคิวผมมันดันด้อยกว่าอีคิว ผมเริ่มเดินทางเข้าสู่วงการการทำงานโดยคัดเลือกเฉพาะเจาะจงไปที่บริษัทที่มั่นคง การงานที่สัญญาว่าจะสร้างฐานะที่มั่งคั่ง เงินเก็บก้อนโตที่จะนำไปสร้างครอบครัวให้อยู่อย่างสุขสบาย
ต่างจากเพื่อนของผมคนนี้ที่เลือกออกเดินทางไปศึกษาต่อจนได้รับทุนการศึกษาปริญญาโทและเอก ณ ต่างประเทศ
(2)
บนโต๊ะอาหารสไตล์ญี่ปุ่น ณ ห้างสรรพสินค้าย่านปทุมวัน เพื่อนของผมเริ่มกล่าวถ้อยคำเชิญชวนเพื่อชักจูงให้ผมกลับไปทำวงดนตรีอีกครั้ง แต่เนื่องจากตารางซ้อมอันหนักหน่วงนี้ไม่ลงตัวกับเวลาหลังเลิกงานที่ผมพอจะเจียดมันเป็นชิ้นๆออกมาได้ จึงทำให้จำใจต้องปฏิเสธไปด้วยความจำยอม
ประเด็นที่ถูกพูดคุยจึงถูกย้ายจากเรื่องซีเรียสกลายเป็นเเรื่องตลกโปกฮา ผมเริ่มถามไปตามประเด็นต่างๆ ที่สำคัญเราไม่ลืมที่จะพูดคุยถึงเรื่องความรัก
"แกจะให้วงเราไปเล่นในงานแต่งงานแกเมื่อไหร่ดีละ 555 " เพื่อนร่างท้วมคนหนึ่งเริ่มแซวด้วยคำถามชี้นำ
"เอ้ยยย ... จะบ้าหรอ " เสียงอุทานจากเพื่อนของผมดังออกมาราวกับการปฏิเสธเป็นนัยๆ
เพื่อนผมคนนี้มีแฟนอยู่แล้วครับ ทั้งคู่ได้จากบ้านจากเมืองห่างกันเป็นระยะเวลาหนึ่ง ระยะทางกับเวลาก็ปาเข้าไปเกือบจะครบห้าปีเห็นจะได้ แต่การกลับมาครั้งนี้กลับทำให้ผมได้พบเรื่องอันน่าประหลาดใจบางอย่าง
สองเดือนผ่านไป
บนหน้าเฟสบุคของผมกลับมีข้อความแจ้งเตือนมาว่าทั้งคู่จะแต่งงานกัน ด้วยวัยละอ่อนที่อายุยังไม่ก้าวข้ามเลข 3 เป็นหลักสิบ นักเรียนนอกที่เพิ่งกลับมาจากแดนไกลที่ยังไม่ได้มีฐานะมั่งคั่งกลับเปลี่ยนวิถีคิดของผมให้ อึ้ง ทึ่ง กันไปเลยทีเดียว
(3)
หลายๆครั้งที่เรามักปล่อยเวลาดีๆให้ผ่านไป โดยคิดว่ายังไม่ถึงวัยอันควร ฐานะที่มั่นคง หรือเหตุผลของความเหมาะสมเรื่องระยะทางและเวลา
แต่โอกาสเหล่านั้นไม่สนใจเหตุผลร้อยแปดของพวกเราผู้ชอบใช้เหตุผลเป็นหลัก พวกมันยังลักลอบล่องลอยผ่านหน้าผ่านตาเราห่างออกไปช้าๆ
ในยามที่เราเพิกเฉยอาจเป็นเวลาเดียวกับที่โชคชะตามอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับเราก็ได้
โอกาสเหล่านั้นอาจจะเกิดขึ้นตั้งแต่วันแรกที่เรารู้จักกัน วันที่เราตอบรับเป็นเฟรนกันในเฟสบุค วันแรกที่ชื่อของเธอมาอยู่บนไลน์ฉัน หรืออาจจะเป็นข้อความทักทายแรกของวันที่ถูกส่งมาตอนที่ฉันติดประชุม หลังจากวันนั้นเราปล่อยให้โอกาสผ่านไปกับอากาศมากน้อยเท่าไหร่
ความบังเอิญ พรหมลิขิต โชคชะตา รวมถึงความรักล้วนเป็นสิ่งอัศจรรย์ที่สามารถก่อตัวขึ้นโดยไม่ต้องคิดหาเหตุผล
มีเพลงๆหนึ่งที่ผมเคยร้องกับเพื่อนคนนี้ในงานบทเพลงใต้แสงดาวที่จัดขึ้นสมัยทำค่ายต้อนรับน้อง เพลงนี้มีชื่อว่า "เพราะอะไร" ของพี่ป้าง นครินทร์ กิ่งศักดิ์ บางทีเขาอาจจะเข้าใจความหมายที่แท้จริงของเพลงนี้มากกว่าผมก็เป็นได้
" ... อาจจะฟังแล้วไร้เหตุผล ว่าสิ่งที่ทำให้คนรักกัน หรือเป็นเพียงรอยยิ้ม รอยนั้นเมื่อวันแรกเจอ
หากจะหาเหตุผลสักคำ ว่าสิ่งที่ทำให้ฉันรักเธอ นั่นเป็นเพราะตัวฉันมาเจอ เจอสิ่งดีงาม..."
ความหมายของเหตุผลในบรรทัดแรกอาจไม่จำเป็นซักนิดที่เราจะเริ่มขวนขวายสิ่งดีงามตั้งแต่วันที่เริ่มต้นออกเดินทาง หยาดเหงื่อทุกหยดความเครียดทุกอณูอาจจะถูกบรรเทาลงเมื่อเราไม่ปล่อยให้ใครบางคนเดินผ่าน หรือแค่มีใครบางคนรอคอยอยู่ข้างๆ
แค่รอยยิ้มรอยนั้นเมื่อวันแรกเจอ ก็อาจจะเปลี่ยนชีวิตของใครหลายๆคนก็ได้
ผมขอยินดีให้กับความรักของทั้งคู่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น