Beyond Creative, We do

FB:Theexplorerphotographer

test

วันเสาร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2559

#อิสรภาพ #การเริ่มต้นใหม่ #และโหลหกใบ



* * * * * * * * * *



(1)
"อิสรภาพทางการเงินมันสำคัญขนาดนั้นเชียวหรอ"
หากย้อนเวลากลับไปเมื่อปี 2014 ผมในฐานะมนุษย์ไม่กินเงินเดือนเคยตั้งคำถามกับตัวเองไว้แบบนั้น การเดินหันหลังให้กับระบบที่มั่นคงแล้วก้าวเข้าสู่ประตูกลุ่มชนที่ผันตัวเองมาเป็นฟรีแลนซ์ในระยะชั่วคราวครั้งนั้นได้ทำให้ผมพบเจอมุมมองใหม่ๆของชีวิต

แม้ใครจะห้ามปรามว่าการลาออกของผมอาจทำให้ความก้าวหน้าในสายงานที่สั่งสมมาหยุดชะงัก แต่ในมุมมองของคนที่ผ่านการทำงานมาระยะหนึ่งอย่างผม การหยุดยุติความวุ่นวายลงเสียบ้างอาจทำให้เราได้พบโลกใบใหม่ที่กว้างใหญ่กว่าขอบกะลาที่ครอบเราอยู่

ผมเตรียมตัวออกเดินทางไปยังประเทศที่เงียบสงบอย่างประเทศเมียนม่า ที่เลือกเป็นประเทศเพื่อนบ้านเพราะว่าผมอยากจะลองค้นหาศรัทธาในชีวิตดูอีกครั้ง การได้ไปพบเห็น ผู้คน วัฒนธรรม ความเป็นอยู่ ร่องรอยของอารยธรรมและการเปลี่ยนแปลง ได้ทำให้ผมค้นพบว่าความสุขของชีวิตของคนเราในแต่ละวันนั้น มันอาจหมายถึงการทำอะไรง่ายๆแล้วมีความสุขได้ตลอดไป

การเข้าวัดเป็นกิจวัตรประจำของคนเมียนม่าที่จะกระทำในวันหยุด การกราบไหว้ขอพร บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรือการนั่งพักผ่อนหย่อนใจ เป็นสิ่งที่นักเดินทางอย่างเราสามารถพบเห็นได้ทั้งวัน ความสงบของจิตอาจเปรียบได้กับการหาความสุขเล็กๆมาห่มกาย ไม่ต้องรีบเร่งใช้ชีวิตอย่างไม่รู้ความหมาย เพื่อไปแลกเปลี่ยนกับสิ่งที่มันไม่คงทนถาวร

(2)
"ยุติเรื่องเก่าๆเพื่อออกไปเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง"
ไม่นานนักหลังจากที่ผมเดินทางกลับมาจากการแสวงบุญ ผมก็ได้รับบัตรสัมมนาเพื่อเข้าไปปรับเปลี่ยนบลูปริ๊นส์ทางด้านการเงินกับผู้เชี่ยวชาญของ T-Harv Eker ในคอร์สที่มีชื่อว่า Millionaire Mind Intensive (MMI) อย่างงงๆ

ยังดีที่ผมก็มีแบคกราวน์คร่าวๆว่าผู้สอนคนนี้เป็นใคร มาจากไหน และประสบความสำเร็จในเรื่องอะไรมา คงเป็นเพราะชื่อของเขานั้นเคยไปปรากฏอยู่ในหนังสือเล่มหนึ่งที่ผมเพิ่งสั่งซื้อมาจากร้านหนังสืออนไลน์ได้ไม่นาน

เมื่อได้บัตรมาอย่างงๆ ประจวบเหมาะกับช่วงเวลาทีเหมาะเหม๋งในช่วงนั้น ผมจึงรีบตอบรับการเข้าร่วมการสัมมนาแบบเข้มข้นนี้ในทันที แม้จะรู้อยู่แก่ใจว่าสถานที่จัดงานอยู่ห่างจากบ้านไปเกือบ 3 ชั่วโมง แต่ทว่าตอนนี้คงไม่มีอะไรจะเสี่ยงไปกว่าการนั่งๆนอนๆอยู่กับที่ โดยไม่คิดจะเปลี่ยนแปลงชีวิตหลังจากนี้ให้ดีขึ้นกว่าเดิม

(3)
เข้ามางานสัมมนาวันแรกก็รู้สึกตกใจ ทำไมผู้คนส่วนใหญ่ที่มาจึงใส่ใจกับงานสัมมนาแบบนี้กันมาก บางคนยอมเสียเงินเพิ่มจำนวนหลักพันอัพเพื่อขอยืมหูฟังที่มีล่ามแปลภาษาให้ แถมมารู้ตอนหลังว่าหากอยากนั่งเก้าอี้แถวหน้าให้ใกล้ชิดกับวิทยากรก็ต้องยอมเสียเงินเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว

ในฐานะที่ผมมาแบบงงๆ ก็คงไม่ไปเรียกร้องอะไรมากมายนัก การไปนั่งเก็บเกี่ยวความรู้และประสบการณ์จากวิทยากรจากเมืองนอกเมืองนา อาจทำให้เราได้อะไรดีๆกลับไ

งานสัมมนาแบบนี้จะบังคับให้เราต้องรู้จักผู้คนให้มากขึ้น แน่นอนที่วิทยากรจะต้องนำกิจกรรมไอซ์เบรคกิ้งเข้ามาผสมผสานการบรรยาย เพื่อให้ผู้ร่วมสัมมนาปลดปล่อยอารมณ์และความรู้สึกที่แท้จริงออกมาให้หมดเปลือก "Thoughts lead to feelings. Feelings lead to actions. Actions lead to results" คือประโยคหนึ่งที่ผมจดจำจนขึ้นใจมาได้จนถึงทุกวันนี้

ในงานสัมมนามีเรื่องราวที่หยิบยกขึ้นมาเป็นตัวอย่างมากมาย แต่สิ่งที่ผมรู้สึกจนสนใจมากเป็นพิเศษคือเรื่องการบริหารเงินแบบ JARS SYSTEM ที่ประกอบไปด้วย (1) ขวดจำเป็น (2) ขวดเที่ยวเล่น (3) ขวดเงินต่อเงิน (4) ขวดเพิ่มความรู้ (5) ขวดเก็บเพื่อใช้ และ (6) ขวดเก็บเพื่อให้ โดยแต่ละขวดจะบ่งบอกความสำคัญและความจำเป็นในการเก็บออมเพื่อลงทุนและใช้จ่ายอย่างเป็นระบบ เพื่อไม่ให้เราใช้จ่ายมากเกินไปหรือตระหนี่มากจนไม่กล้าจะเข้าไปลงทุนในความเสี่ยงใดๆ

อีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าตื่นเต้นที่สุดในสัมมนา ก็คือการให้ผู้ร่วมสัมมนาควักเงินสดออกมาสามพันบาท แล้ววิทยากรก็เรียกให้เจ้าหน้าที่ไปเอาถือถังน้ำกับเทียนไขมายืนประจันหน้า เมื่อวิทยากรบอกให้ทุกคนเอาเงินที่ถืออยู่ในมือไปเผาไฟให้หมด ผมถึงสะดุ้งหดมือในทันใด เหตุเพราะว่าเงินสามพันบาทที่ถืออยู่ในมือนั้น ผมเพิ่งจะหยิบยืมมาจากพี่ที่เพิ่งรู้จักกันเพื่อมาทำกิจกรรมเท่านั้นเอง

แต่จนแล้วจนเล่าเงินสามพันบาทก็ถูกส่งคืนเข้ากระเป๋าพี่เขาไปอย่างไม่บุบสลาย บทเรียนสำคัญในกิจกรรมนี้สอนให้ผมเข้าใจว่าเงินไม่ใช่สิ่งที่จะมาตั้งกฏให้เราต้องทำหรือไม่ทำอะไร มีแค่ตัวเราเองเท่านั้นที่จะตั้งกฏให้กับวัตถุนอกกาย ผมเริ่มค่อยๆเข้าใจแล้วว่าแท้จริงเงินคือผลพลอยได้เมื่อเราเดินทางไปถึงยังเป้าหมายของตัวเอง

(4)
ผ่านมาหลายปีความทรงจำในงานสัมมนาครั้งนั้นก็ยังไม่เลือนหาย อาจเป็นเพราะว่าความเข้าใจในเรื่องเงินๆทองๆของผมนั้นเปลี่ยนไปมากกว่าแต่ก่อน จากที่เคยคิดว่าการทำงานประจำก็เหมือนกับการแลกเปลี่ยนชีวิตประจำวันไปกับการได้รับเงินทอง แต่วันนี้กลับมารู้สึกว่าแต่ละเดือนที่ผ่านไป เราได้รับสิ่งตอบแทนที่มากไปกว่าตัวเลขที่เพิ่มขึ้นในสมุดบัญชี และที่แน่ๆอาจหมายถึงระยะห่างของตัวเรากับความฝันที่มันค่อยๆหดสั้นลง

"อิสรภาพทางการเงิน" ยังคงเป็นคำสวยหรูที่ผู้คนมากมายต่างมุ่งมั่นเพื่อไปให้ถึงยังจุดหมาย แต่จะมีวิธีใดบ้างที่เราจะสามารถสั่งสมตัวเลขในบัญชีพร้อมๆไปกับขวนขวายหาความหมายของชีวิตได้เช่นกัน

ระบบการจัดการบริหารเงินแบบโหล 6 ใบยังคงใช้ได้ดีในปัจจุบัน การส่งต่อความรู้ที่ได้ร่ำเรียนมาคือสิ่งที่ผมอยากนำเสนอว่ามันได้ผลดีจริงๆ ผลลัพธ์ของการบริหารเงินแบบJARS SYSTEM นี้ได้ทำให้เรามีวินัย และใส่ใจกับอนาคตที่ทุกคนต่างต้องเผชิญ และสิ่งที่สำคัญที่สุดมันจะช่วยให้เราไม่หลงลืมที่จะจับจ่ายความสุขเล็กๆที่ผุขึ้นเหมือนดอกเห็ดระหว่างการเดินทาง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

มิงกะลาบา ความหวังใหม่ใต้เปลือกตา

มิงกะลาบา ความหวังใหม่ใต้เปลือกตา

ล้านนาแค่ขยิบตา

ล้านนาแค่ขยิบตา
บันทึกการเดินทางจำนวนสิบสี่ตอนที่จะเปลี่ยนมุมมองทุกการเดินทางให้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

Ads

Most Popular