CLIMBING UP YOUR WAY

CLIMBING UP YOUR WAY

* * * * * * * * * *

(1)
ภายใต้แสงนีออนในค่ำคืนที่มืดมิดผมกำลังใช้ชีวิตไม่ต่างไปจากมนุษย์คนอื่นๆ การนั่งไล่อ่านฟีดที่เป็นการแชร์ความรู้และประสบการณ์ดูเหมือนจะเป็นหน้าต่างที่น่าสนใจมากที่สุดในขณะนี้ บางคนแชร์ความสำเร็จที่ได้รับกลับมาเป็นกอบเป็นกำจากการลงทุนในหุ้น บางคนแบบไต๋ให้รู้ถึงเทคนิคการปล่อยเช่าอสังหาริมทรัพย์หลักพันๆล้านกันอย่างโจ๋งครึ้ม บางคนกลายเป็นโค้ชด้านความสำเร็จชั่วข้ามคืนจากธุรกิจแบ่งบันความรู้ และก็ยังมีอีกหลายๆเฟสบุ๊คเพจที่ควักความสามารถอันโดดเด่นของตัวเองมาเป็นจุดขายของกันอย่างง่ายดาย

ดูๆไปแล้วผลิตภัณฑ์ของผู้คนเหล่านี้นั้นช่างแตกต่างไปจากธุรกิจแบบซื้อมาขายไปในสมัยช่วงสิบปีที่ผ่านมาอย่างสิ้นเชิง ต้องขยัน ต้องอดทน ต้องทำงานหนักๆ ต้องลงแรงเยอะๆ เพื่อแลกมาซึ่งความสำเร็จในปั้นปลาย ทว่าคำพูดที่เคยฝังอยู่ในหัวเราตั้งแต่เด็กเหล่านี้กำลังจะถูกลบออกไปจากสารระบบโดยสิ้นเชิง เพราะเดี๋ยวนี้ยิ่งเราสะสมความรู้และประสบการณ์ได้มากกว่าคนอื่นเท่าไร เราก็ยิ่งสามารถใช้ทรัพย์สินทางปัญญาเหล่านี้ไปหาลู่ทางเปลี่ยนมันให้เป็นทรัพย์สินทางกายได้ตลอดเวลา

ธุรกิจห้องเช่า ธุรกิจสัมมนา ธุรกิจร้านค้าออนไลน์ หรือธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาตัวเอง ธุรกิจเหล่านี้ล้วนป๊อปปูล่าในความคิดของมนุษย์กินเงินเดือนอย่างผม ยิ่งศึกษาเราจึงยิ่งรู้ว่าความสำเร็จที่ถูกขีดเขียนขึ้นมาเพียงไม่กี่บรรทัดนี้ มันไม่ได้ง่ายดายเหมือนอย่างที่เราเข้าใจ แต่ทว่ามันก็ไม่ได้ไกลไปกว่าความตั้งใจที่วาดหวังเอาไว้ ว่าสักวันหนึ่งเราจะฝึกฝนจนมีประสบการณ์ที่หนักแน่นพอ และพร้อมที่จะก้าวเข้าไปหาเป้าหมายเดิมของเราอย่างมั่นคง

(2)
เมื่อโลกมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยและรวดเร็วมากขึ้น มนุษย์อย่างเราจึงเข้าถึงข้อมูลข่าวสารประเภทนี้บ่อยขึ้น มันเลยยิ่งทำให้เรากระหายความสำเร็จกันแบบชั่วข้ามคืนกันมากขึ้น พอเห็นคนๆหนึ่งทำแล้วได้ผลลัพธ์ดีเราจึงรีบลงมือทำตาม ทั้งๆที่ยังไม่ได้ศึกษาผลดีผลเสียที่จะตามมาอย่างถี่ถ้วน พอไม่ได้เป็นไปอย่างที่ใจหวังบางคนก็ล้มเลิกมันไปเสียดื้อๆ บางทีถ้ามันไม่ใช่แนวทางที่เราสนใจ การเลือกตัดสิ่งที่เราไม่ถนัดออกไปเสียบ้างก็น่าจะทำให้เรามองเห็นเป้าหมายและความต้องการอันแท้จริงของเราได้ชัดเจนกว่า และเมื่อไรที่ได้ลงมือทำในสิ่งที่รักเราจะเริ่มรู้สึกสนุกไปกับมัน พอถึงตอนนั้นก็คงถึงเวลาที่เราจำต้องหาวิธีการยกระดับสิ่งที่เรารักให้กลายเป็นผลตอบแทนงามๆเสียที

ผมยังคงไล่อ่านกระทู้ประสบการณ์ชีวิตของผู้คน พร้อมๆไปกับการขบคิดถึงเป้าหมายที่เขียนไว้บนผนัง ถึงแม้ว่าเป้าหมายบางข้อจะสำเร็จไปบ้างแล้ว แต่มันก็ยังไม่ถึงที่สุดเท่าที่เราพอใจ ยิ่งทบทวนจึงได้รู้ว่าเป้าหมายบางข้อมันถูกกัดกร่อนด้วยการละเลยที่เกิดจากผลกระทบบางอย่างในชีวิตประจำวัน การใช้แรงและกำลังให้หมดไปกับความสิ้นหวังในแต่ละวัน ดูท่าจะไม่ใช่สิ่งที่เรากำลังตามหาเสียแล้วสิ

ความสับสนเริ่มก่อตัวขึ้นในความคิด เมื่อเป้าหมายของชีวิตถูกชะล้างด้วยความอ่อนล้าจากอุปสรรคซ้ำๆที่ถาโถมเข้าใส่ ในคืนที่อากาศเริ่มเหน็บนาวเราอาจหมดแรงลงแล้วปล่อยสิ่งที่สำคัญให้หลุดจากมือไป ก่อนที่ค่ำคืนนี้จะผ่านไปเราอาจต้องใช้เวลาทบทวนลำดับความสำคัญของสิ่งที่เราได้เลือกสรรเอาไว้ แล้วลงมือทำในสิ่งที่มันจะเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราไปตลอดกาล

(3)
“Do you want to sell sugar water for the rest of your life, or do you want to come with me and change the world?”
"คุณต้องการขายน้ำหวานไปชั่วชีวิต หรือจะมาเปลี่ยนแปลงโลกกับผม "

John Sculley ไม่ได้กระโดดเข้ามากุมบังเหียนให้กับ Apple เพียงเพราะแค่ได้ยินประโยคท้าทายสั้นๆนี้ ทว่าเขาได้คิดทบทวนความน่าจะเป็นของธุรกิจเทคโนโลยีแห่งนี้ไว้แล้ว และเมื่อถึงเวลาที่พอเหมาะหลังจากเขาถูกปลดประจำการ ประสบการณ์ที่สั่งสมเอาไว้มากมายในวันก่อนจึงทำให้อดีตผู้บริหารอย่าง John Sculley สามารถสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่มีชื่ออันเก๋ไก๋ว่า Obi Phone ออกมาให้ผู้คนทั้งโลกได้เห็นเป็นประจักษ์แก่สายตา

จากน้ำอัดลมรสหวานสู่เทคโนโลยีในอนาคต บางทีเราอาจได้ค้นพบคำตอบในค่ำคืนนี้ที่กำลังตามหา ไม่มีสูตรสำเร็จสำหรับทุกๆธุรกิจที่เราไม่ทุ่มเท ไม่ศึกษา รวมถึงไม่ได้ใช้เวลาระยะหนึ่งเพื่อสะสมประสบการณ์ วันนี้เราอาจเป็นเพียงผู้ท้าทายความฝันและเป้าหมายที่ตั้งตระหง่านอยู่ข้างหน้าทั้งๆที่ยังไปไม่ถึงไหนเสียที

ไม่มีความสำเร็จใดเกิดขึ้นได้เพียงชั่วข้ามคืน มันมีแต่เส้นทางความฝันที่เราจะต้องตัดสินใจเลือกเองว่าตอนนี้เราควรจะไต่ระดับขึ้นไปในทิศทางใดก่อน หากเลือกทางสูงชันเราก็ต้องตระเตรียมกำลังและความพร้อมให้เต็มที่ด้วยบทเรียนจากประสบการณ์ที่เพิ่งผ่านพ้นมา ไม่ต้องกลัวที่จะล้มทั้งๆที่เรายังไม่ได้ล้ม ไม่ต้องกลัวที่ตกหล่นลงมาอีกครั้ง เพราะถึงอย่างไรเราก็จะปีนขึ้นไปสู่เป้าหมายแห่งนั้นจนสำเร็จอย่างที่ตั้งใจ