ความฝันที่ 25
*****************
ความฝันเมื่อคืนก่อนของผมยังไม่จบ
ทุกค่ำคืนความฝันของผมมักจะถูกสั่งคัทด้วยเสียงอันน่ารำคาญของนาฬิกาปลุก ความต่อเนื่องถูกทำให้จบลงเสียก่อนที่ปริศนาบางอย่างจะคลี่คลาย
ในหนึ่งปริศนานั้นยังวนเวียนและคอยไถ่ถามว่า เมื่อผมหลับตาลงอีกครั้งความฝันในคืนนั้นจะยังปะติดปะกับเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นเมื่อคืนก่อนได้ไหม
หากความฝันที่ 25 นั้นได้หล่นหายไปในคืนวันก่อน
ผมกำลังตื่นตาตื่นใจมองภาพการเดินทางอันน่าพิศวงของ Walter Mitty ชายผู้ซึ่งมีจินตนาการอันเหนือล้ำกว่าการเริ่มต้นลงมือทำ
ผมตั้งคำถามให้กับ Mitty ทุกครั้งที่เขาเริ่มจินตนาการไปถึงภาพเหตุการณ์อันน่าทึ่ง
เมื่อไรนะที่เขาจะเริ่มลงมือทำโลกแห่งจินตนาการเหล่านั้นให้กลายเป็นจริงเสียที
จนกระทั่งช่างภาพณอนได้ส่งภาพปริศนาที่ 25 มาให้เขา
บนโลกที่แสนจะปกติของ Mitty ไม่ต่างอะไรจากโลกอันแสนธรรมดาของพวกเรา ความรับผิดชอบและหน้าที่เป็นดั่งตัวกำหนดให้ชีวิตของเราเดินไปในทิศทางนั้น จนบางทีความฝันนั้นก็เริ่มเลือนลางหายไป
สุดท้ายแล้วความฝันก็ถูกเก็บไว้ในซอกหลืบที่ลึกเกินกว่าจะหยิบขึ้นมาปะติดปะต่อ แล้วเมื่อไรที่เราจะสามารถกำหนดทิศทางของชีวิตด้วยตัวเอง
การเดินทางของ Mitty คือการเติมเต็มตัวอักษรในสมุดจดบันทึกการเดินทางเล่มเปล่าที่พ่อของเขามอบไว้ให้ก่อนจะจากไป
ทุกๆการเดินทางมีจุดเริ่มต้นที่สวยงามและน่าค้นหา
เมื่อ Mitty เริ่มค้นหาปริศนาภาพที่ 25 จึงทำให้เขาได้ปลุกความฝันครั้งเก่าของเขาขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อภาพปริศนาต่างๆเริ่มปะติดปะต่อ ความอบอุ่นจากครอบครัวของคือปริศนาตัวถัดไปที่เขาค้นพบ และในที่สุดปริศนาตัวสุดท้ายก็กลับมาอยู่ที่ตัวของเขาเอง
การเดินทางไปยังที่ที่ไม่รู้จักมักทำให้เราใกล้ชิดกับตัวเองมากขึ้น เราทุกคนจะเริ่มรู้จักตัวเองมากขึ้นเมื่อเดินออกมาจากกรอบเดิมๆ และจะเห็นตัวเองชัดขึ้นเมื่อหันกลับไปสังเกตตัวเองที่จุดนั้นอีกครั้ง
บทสรุปของการเดินทางอันน่าพิศวงของ Mitty คงจะไม่ใช่ความตื่นเต้นที่ได้วิ่งหนีภูเขาไฟระเบิด การกระโดดลงไปในทะเลลึก หรือการเผชิญปลาฉลามยักษ์ใต้ทะเล
แต่กลับกันที่การเดินทางอันน่าพิศวงที่แท้จริงหมายถึง การเริ่มต้นออกวิ่งไปบนทางที่ส่งสัญญาณท้าทายอยู่ข้างหน้า โดยไม่เกรงกลัวต่อผลลัพธ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น สุดท้ายแล้วหนทางที่พ้นผ่านจะพิสูจน์ว่าจุดหมายปลายทางที่แท้จริงอยู่ที่ใด
ความฝันที่ 25 ของผมก็เกิดขึ้นบนโต๊ะทำงานตัวเล็ก ภาพเลือนลางนั้นยังคงฉายแสงริบหรี่ออกมาให้เห็นซ้ำๆเดิมๆ ภาพที่ผมกำลังจดบันทึกการเดินทางอันน่าพิศวงลงสมุดเดินทางเล่มหนึ่ง การเดินทางครั้งนี้ไม่มีเป้าหมาย ไม่มีแผนการ และไม่มีจุดหมายปลายทาง
ยิ่งรีบออกเดินทางจากกรอบที่ตีขึ้นมาได้ไกลมากเท่าไร ปริศนาตัวถัดไปจะเริ่มปรากฏเร็วขึ้นเท่านั้น แล้วเวลานั้นผมจะปะติดปะต่อความฝันที่ 25 ให้กลายเป็นความจริงเสียที
ก่อนที่ความฝันที่ 25 ครั้งก่อนจะเลือนหายไป ผมสังเกตเห็นคำหนึ่งคำที่ถูกจดอยู่ในสมุดบันทึกการเดินทางเล่มนั้น มันถูกเขียนอย่างชัดเจนว่า
"Start Living Now"
*****************
ความฝันเมื่อคืนก่อนของผมยังไม่จบ
ทุกค่ำคืนความฝันของผมมักจะถูกสั่งคัทด้วยเสียงอันน่ารำคาญของนาฬิกาปลุก ความต่อเนื่องถูกทำให้จบลงเสียก่อนที่ปริศนาบางอย่างจะคลี่คลาย
ในหนึ่งปริศนานั้นยังวนเวียนและคอยไถ่ถามว่า เมื่อผมหลับตาลงอีกครั้งความฝันในคืนนั้นจะยังปะติดปะกับเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นเมื่อคืนก่อนได้ไหม
หากความฝันที่ 25 นั้นได้หล่นหายไปในคืนวันก่อน
ผมกำลังตื่นตาตื่นใจมองภาพการเดินทางอันน่าพิศวงของ Walter Mitty ชายผู้ซึ่งมีจินตนาการอันเหนือล้ำกว่าการเริ่มต้นลงมือทำ
ผมตั้งคำถามให้กับ Mitty ทุกครั้งที่เขาเริ่มจินตนาการไปถึงภาพเหตุการณ์อันน่าทึ่ง
เมื่อไรนะที่เขาจะเริ่มลงมือทำโลกแห่งจินตนาการเหล่านั้นให้กลายเป็นจริงเสียที
จนกระทั่งช่างภาพณอนได้ส่งภาพปริศนาที่ 25 มาให้เขา
บนโลกที่แสนจะปกติของ Mitty ไม่ต่างอะไรจากโลกอันแสนธรรมดาของพวกเรา ความรับผิดชอบและหน้าที่เป็นดั่งตัวกำหนดให้ชีวิตของเราเดินไปในทิศทางนั้น จนบางทีความฝันนั้นก็เริ่มเลือนลางหายไป
สุดท้ายแล้วความฝันก็ถูกเก็บไว้ในซอกหลืบที่ลึกเกินกว่าจะหยิบขึ้นมาปะติดปะต่อ แล้วเมื่อไรที่เราจะสามารถกำหนดทิศทางของชีวิตด้วยตัวเอง
การเดินทางของ Mitty คือการเติมเต็มตัวอักษรในสมุดจดบันทึกการเดินทางเล่มเปล่าที่พ่อของเขามอบไว้ให้ก่อนจะจากไป
ทุกๆการเดินทางมีจุดเริ่มต้นที่สวยงามและน่าค้นหา
เมื่อ Mitty เริ่มค้นหาปริศนาภาพที่ 25 จึงทำให้เขาได้ปลุกความฝันครั้งเก่าของเขาขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อภาพปริศนาต่างๆเริ่มปะติดปะต่อ ความอบอุ่นจากครอบครัวของคือปริศนาตัวถัดไปที่เขาค้นพบ และในที่สุดปริศนาตัวสุดท้ายก็กลับมาอยู่ที่ตัวของเขาเอง
การเดินทางไปยังที่ที่ไม่รู้จักมักทำให้เราใกล้ชิดกับตัวเองมากขึ้น เราทุกคนจะเริ่มรู้จักตัวเองมากขึ้นเมื่อเดินออกมาจากกรอบเดิมๆ และจะเห็นตัวเองชัดขึ้นเมื่อหันกลับไปสังเกตตัวเองที่จุดนั้นอีกครั้ง
บทสรุปของการเดินทางอันน่าพิศวงของ Mitty คงจะไม่ใช่ความตื่นเต้นที่ได้วิ่งหนีภูเขาไฟระเบิด การกระโดดลงไปในทะเลลึก หรือการเผชิญปลาฉลามยักษ์ใต้ทะเล
แต่กลับกันที่การเดินทางอันน่าพิศวงที่แท้จริงหมายถึง การเริ่มต้นออกวิ่งไปบนทางที่ส่งสัญญาณท้าทายอยู่ข้างหน้า โดยไม่เกรงกลัวต่อผลลัพธ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น สุดท้ายแล้วหนทางที่พ้นผ่านจะพิสูจน์ว่าจุดหมายปลายทางที่แท้จริงอยู่ที่ใด
ความฝันที่ 25 ของผมก็เกิดขึ้นบนโต๊ะทำงานตัวเล็ก ภาพเลือนลางนั้นยังคงฉายแสงริบหรี่ออกมาให้เห็นซ้ำๆเดิมๆ ภาพที่ผมกำลังจดบันทึกการเดินทางอันน่าพิศวงลงสมุดเดินทางเล่มหนึ่ง การเดินทางครั้งนี้ไม่มีเป้าหมาย ไม่มีแผนการ และไม่มีจุดหมายปลายทาง
ยิ่งรีบออกเดินทางจากกรอบที่ตีขึ้นมาได้ไกลมากเท่าไร ปริศนาตัวถัดไปจะเริ่มปรากฏเร็วขึ้นเท่านั้น แล้วเวลานั้นผมจะปะติดปะต่อความฝันที่ 25 ให้กลายเป็นความจริงเสียที
ก่อนที่ความฝันที่ 25 ครั้งก่อนจะเลือนหายไป ผมสังเกตเห็นคำหนึ่งคำที่ถูกจดอยู่ในสมุดบันทึกการเดินทางเล่มนั้น มันถูกเขียนอย่างชัดเจนว่า
"Start Living Now"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น