ล้านนาแค่ขยิบตา #
(ขยิบตาครั้งที่สิบสี่)
ณ ทางกลับบ้าน
"หมดเวลาสนุกแล้วซิ"
แว่วเสียงน้อยๆที่มักดังขึ้นเมื่อภารกิจที่ตั้งไว้เสร็จสิ้นลง
ทุกการเดินทางย่อมมีจุดหมายปลายทาง หลักกิโลที่เคยผ่านเปรียบเสมือนเครื่องวัดระยะการเดินทางได้อย่างดี ในหลักกิโลสุดท้ายนักเดินทางทุกคนจะถูกตีตราให้เป็นดั่งผู้พิชิต
หลังจากการเดินทางสิ้นสุดลง นักเดินทางมีสิทธิ์ที่จะเลือกไปต่อหรือลากกระเป๋าออกจากบ้าน สำหรับผมแล้วทุกๆการเดินทางไม่เคยมีคำว่าท้ายสุด ประสบการณ์จากการเดินทางครั้งนี้จะต่อยอดให้กับการเดินทางในครั้งถัดไปเสมอ
ประสบการณ์จากในห้องเรียน ในอาคาร ในตำรา สอนให้เราเปิดตาทั้งสองข้าง ออกไปยังโลกที่เรายังไม่เคยรู้ ในขณะที่ประสบการณ์ภายนอกจะสอนให้เรารู้จักพลิกและปรับเปลี่ยนข้อมูลในตำราบทใหม่ ในหน้ากระดาษแผ่นนั้นเราสามารถออกแบบข้อมูลที่ต้องการด้วยตัวเอง
อีก 15 นาทีเที่ยงคืน
พวกเราอยู่บนถนนไฮเวย์ฝั่งตะวันตกในจังหวัดกำแพงเพชร
รถตู้คันนี้กำลังพาพวกเรากลับสู่โลกที่เวลาหมุนเร็วกว่าเมื่อวาน ผมไม่แน่ใจนัก หากวันพรุ่งนี้เมื่อผมตื่นขึ้นมาจะไม่มีผู้คนแปลกหน้าเหล่านี้ให้ทักทาย ไม่มีรอยยิ้มจากคนที่ไม่รู้จัก ไม่มีความตื่นเต้นครั้งใหม่ หรือไม่มีแม้แต่เสียงไพเราะของนกที่เกาะบนสายไฟ ผมจะยังจดจำความรู้สึกเหล่านี้ให้นานเท่านานได้อย่างไร
กล้องถ่ายรูป ปากกา และสมุดจดบันทึก คือเครื่องมือที่ผมถือติดตัวอยู่ตลอดเวลา ผมแน่ใจว่าทุกความทรงจำของผมถูกบันทึกไว้อย่างครบถ้วน
ในความมืดมิดผมเริ่มพลิกไปยังหน้าแรกของสมุดจดบันทึกอีกครั้ง
"กูจะไปเชียงใหม่"
ตัวหนังสือตัวโตๆที่ยังวนเวียนอยู่ในหัวเสมอ การแบกสัมภาระขึ้นบ่าในครั้งนี้มีที่มาจากโต๊ะอาหารตัวหนึ่ง ไม่น่าเชื่อว่าเพียงคำพูดที่ไม่เคยคิด จะแปรเปลี่ยนเป็นสารท้ารบดีๆที่เกิดขึ้นจากตัวผมเอง เมื่อมีเป้าหมายที่ชัดเจนแล้ว ก็เหลือแต่ออกไปพุ่งชนให้ถึงที่สุดเท่านั้นเอง
ไฟสลัวๆจากป้ายข้างทางบอกให้ผมรู้ว่า ตอนนี้รถตู้พวกเรากำลังแล่นเข้าสู่ใจกลางกรุงเทพมหานคร
รถตู้แล่นผ่านถนนพหลโยธิน อีกไม่นานคณะเดินทางของเราจะต้องแยกย้ายกันไปตามทางกลับบ้านของตัวเอง สิ่งหนึ่งที่ยังฝากฝังไว้เสมอคือเรื่องราวอันน่ามหัศจรรย์ที่ได้เกิดขึ้นตลอดระยะทางและเวลาที่อยู่ด้วยกัน
ผมพลิกไปยังหน้าถัดไปของสมุดจดบันทึก
"การเดินทางในแต่ละครั้งมักให้ความรู้สึกที่แตกต่างออกไป เมื่อไปกับเพื่อนเราจะได้รับมิตรภาพ ไปกับคนที่รู้จักเราจะได้ความเชื่อใจ และถ้าไปกับคนที่เราไม่รู้จักเราจะเจอกับอะไร"
ตอนนี้ผมพบคำตอบของคำถามนี้แล้ว
ตีสามครึ่งที่ปั๊มน้ำมัน ทุกคนต่างลากกระเป๋าของตัวเองลงจากรถ เพื่อรอเรียกรถแท็กซี่กลับบ้าน
พวกเราต่างค่อยๆทยอยหายลับไปกับแท็กซี่ทีละคัน รอยยิ้มและท่าทางโบกมืออำลายังคงพบเห็นทุกครั้งที่รถแท็กซี่เริ่มเคลื่อนออกไป
ผมยกกระเป๋าใบใหญ่พร้อมความทรงจำที่มากกมายขึ้นรถแท๊กซี่สีชมพู สัญญาณโบกมืออำลาของทุกคนเริ่มส่ายไปมาอีกครั้ง ขอบคุณที่ใครบางคนนำทางให้เรามาเจอกัน และผมเชื่อว่านี่ไม่ใช่ครั้งสุดท้ายที่เราจะพบกัน
ขอบคุณพี่อิ่ม-พี่ชิม พี่สาว-พี่ชายที่ชวนผมออกไปเปิดหูเปิดตา
ขอบคุณทุกคนที่ช่วยจุดไฟแห่งความฝัน
ขอบคุณทุกรอยยิ้มที่ร่วมแชร์ร่วมแบ่งปัน
ขอบคุณทุกคนที่ร่วมออกเดินทางไปด้วยกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น