::: No one is perfect :::
หากมีพรวิเศษสักหนึ่งข้อ
ที่ทุกคนสามารถเดินทางกลับไปแก้ไขสิ่งที่เคยเกิดขึ้นในอดีต
เพียงแค่ครั้งเดียวในเหตุการณ์นั้น
คุณจะกลับไปแก้ไข หรือจะปล่อยให้มันเป็นไปอย่างเดิม
พรวิเศษแค่ครั้งเดียวของบางคนอาจจะดูว่ามันน้อยเกินไป
สำหรับสิ่งที่พลาดพลั้งมาแล้วหลายครั้งหลายหน
แต่กลับบางคนแค่เพียงครั้งเดียวมันก็เพียงพอแล้ว
เหมือนกับ ทิม เลค ในเรื่อง About Time
ผมกำลังนับจำนวนการเดินทางย้อนเวลาของเขาที่มีมากกว่าสิบๆครั้ง
หากพระเจ้าสามารถประทานพรให้เขาได้ข้อเดียว
ทิมคงจะเป็นตัวตั้งตัวตีในการแหกกฏของพระเจ้าในครั้งนี้
ไม่ว่าจะเป็นความผิดพลาดเพียงเล็กน้อย
ทิมมักจะแอบเข้าไปในตู้มืดๆเพื่อนึกถึงเรื่องราวเก่าๆเหล่านั้น
และในทุกครั้งเขาก็สามารถเดินทางย้อนเวลากลับไปแก้ไขได้เสมอ
ไม่เว้นแม้กระทั่งความรักของเขาที่เกิดขึ้นกับแมรี่
กับแมรี่ดูเหมือนว่าทิมจะเป็นคนที่ค่อนข้างเห็นแก่ตัวเสียหลือเกิน
เมื่อเขาพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อที่เขาจะได้เจอกับแมรี่ก่อนใคร
แต่ผมกลับมองเห็นอีกมุมว่าทิมพยายามสร้างโอกาสด้วยตัวเองเสมอ
ทิมไม่เคยปล่อยให้ความผิดพลาดนั้นหลุดลอยหายไปในอากาศ
เขาพยายามรีบกลับไปแก้ไขสิ่งที่ผิดนั้นในทันที
แม้บางทีผลลัพธ์ที่เกิดตามมาจะเปลี่ยนให้ทุกอย่างไม่เหมือนเดิม
แต่มันก็ยังดีเสียกว่าที่เขาจะปล่อยให้โอกาสอันน้อยนิดนั้นจางหายไป
เปรียบกับชีวิตคนธรรมดาสามัญที่ไม่มีพลังวิเศษใดๆ
การเผชิญเหตุการณ์ที่ผิดพลาดย่อมเกิดขึ้นได้บ่อยๆ
อยู่ที่ตัวเราจะมองกลับไปหาโอกาสเพื่อแก้ไข
หรือจะรอพรวิเศษจากพระเจ้าเพื่อจะขอย้อนเวลากลับไป
ไม่มีใครสมบูรณ์แบบมาตั้งแต่เกิด
ไม่มีใครสามารถทำทุกสิ่งได้อย่างไร้ที่ติ
คงมีแต่ประตูแห่งโอกาสที่เปิดรอรับคนที่พร้อมจะกลับไปแก้ไขเท่านั้น
No one is perfect
"ปราชญ์ย่อมกระทำโดยการไม่กระทำ"
ผมคิดถึงประโยคหนึ่งที่เคยอ่านผ่านตาที่พูดถึงความไม่สมบูรณ์แบบของมนุษย์
ประโยคข้างต้นดูจะเอนเอียงไปทางลัทธิและความเชื่อ
ความหมายข้างบนดูเหมือนจะขัดกับสิ่งที่ทิมพยายามกระทำมาเสมอ
รวมทั้งพวกเราที่กำลังมองหาโอกาสและเวลาเพื่อย้อนกลับไปแก้ไขความผิดพลาดนั้น
ปราชญ์ย่อมกระทำโดยการไม่กระทำ
ผมย้ำประโยคนี้อีกครั้งเมื่อได้อ่านบล๊อกนั้นผ่านตาซ้ำอีกครั้ง
เมื่อไม่มีอัตตาหรือตัวตน (No one)
การกระทำใดๆที่ตามมาย่อมไม่เกิดขึ้นเช่นกัน
ไม่รู้ว่าด้วยประโยคนี้ที่ทำให้ทิมเริ่มเปลี่ยนไป
หลังจากที่พ่อของเขาได้บอกเคล็ดลับบางอย่างเกี่ยวกับพลังวิเศษ
เขาลดการใช้พลังวิเศษของเขาลง
และปล่อยให้เหตุการณ์ในหนึ่งวันดำเนินไปเฉกเช่นคนธรรมดา
การค้นพบบทสรุปนี้กำลังให้คำตอบที่มีความหมายแก่เขา
การใช้ชีวิตที่แสนจะธรรมดานั้นทำให้เขาได้พบกับความสุขที่มากขึ้น
ทิมไม่จำเป็นต้องกลับไปเปลี่ยนแปลงอดีต
หรือกลับไปแก้ไขเหตุการณ์ที่ผิดพลั้งนั้นอีกต่อไป
เมื่อคนธรรมดาต่างเข้าใจความไม่สมบูรณ์แบบของกันและกัน
ไม่มีวิธีใดจะหลีกหนีและปัดป้องความด่างพร้อยที่ยังเกิดขึ้นแก่เราเสมอ
การเผชิญหน้าเป็นสิ่งที่เราต้องยอมรับและฝ่าฟัน
ริเริ่มจัดการกับสิ่งเกิดอยู่ในปัจจุบันให้ดีที่สุด
มาถึงตอนนี้คุณตอบคำถามได้หรือยัง
หากมีพรวิเศษสักหนึ่งข้อ
คุณจะกลับไปแก้ไข หรือจะปล่อยให้มันเป็นไปอย่างเดิม
หรือไม่บางทีมันอาจเกิดจากความไม่สมบูรณ์แบบของใครสักคน
หากมีพรวิเศษสักหนึ่งข้อ
ที่ทุกคนสามารถเดินทางกลับไปแก้ไขสิ่งที่เคยเกิดขึ้นในอดีต
เพียงแค่ครั้งเดียวในเหตุการณ์นั้น
คุณจะกลับไปแก้ไข หรือจะปล่อยให้มันเป็นไปอย่างเดิม
พรวิเศษแค่ครั้งเดียวของบางคนอาจจะดูว่ามันน้อยเกินไป
สำหรับสิ่งที่พลาดพลั้งมาแล้วหลายครั้งหลายหน
แต่กลับบางคนแค่เพียงครั้งเดียวมันก็เพียงพอแล้ว
เหมือนกับ ทิม เลค ในเรื่อง About Time
ผมกำลังนับจำนวนการเดินทางย้อนเวลาของเขาที่มีมากกว่าสิบๆครั้ง
หากพระเจ้าสามารถประทานพรให้เขาได้ข้อเดียว
ทิมคงจะเป็นตัวตั้งตัวตีในการแหกกฏของพระเจ้าในครั้งนี้
ไม่ว่าจะเป็นความผิดพลาดเพียงเล็กน้อย
ทิมมักจะแอบเข้าไปในตู้มืดๆเพื่อนึกถึงเรื่องราวเก่าๆเหล่านั้น
และในทุกครั้งเขาก็สามารถเดินทางย้อนเวลากลับไปแก้ไขได้เสมอ
ไม่เว้นแม้กระทั่งความรักของเขาที่เกิดขึ้นกับแมรี่
กับแมรี่ดูเหมือนว่าทิมจะเป็นคนที่ค่อนข้างเห็นแก่ตัวเสียหลือเกิน
เมื่อเขาพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อที่เขาจะได้เจอกับแมรี่ก่อนใคร
แต่ผมกลับมองเห็นอีกมุมว่าทิมพยายามสร้างโอกาสด้วยตัวเองเสมอ
ทิมไม่เคยปล่อยให้ความผิดพลาดนั้นหลุดลอยหายไปในอากาศ
เขาพยายามรีบกลับไปแก้ไขสิ่งที่ผิดนั้นในทันที
แม้บางทีผลลัพธ์ที่เกิดตามมาจะเปลี่ยนให้ทุกอย่างไม่เหมือนเดิม
แต่มันก็ยังดีเสียกว่าที่เขาจะปล่อยให้โอกาสอันน้อยนิดนั้นจางหายไป
เปรียบกับชีวิตคนธรรมดาสามัญที่ไม่มีพลังวิเศษใดๆ
การเผชิญเหตุการณ์ที่ผิดพลาดย่อมเกิดขึ้นได้บ่อยๆ
อยู่ที่ตัวเราจะมองกลับไปหาโอกาสเพื่อแก้ไข
หรือจะรอพรวิเศษจากพระเจ้าเพื่อจะขอย้อนเวลากลับไป
ไม่มีใครสมบูรณ์แบบมาตั้งแต่เกิด
ไม่มีใครสามารถทำทุกสิ่งได้อย่างไร้ที่ติ
คงมีแต่ประตูแห่งโอกาสที่เปิดรอรับคนที่พร้อมจะกลับไปแก้ไขเท่านั้น
No one is perfect
"ปราชญ์ย่อมกระทำโดยการไม่กระทำ"
ผมคิดถึงประโยคหนึ่งที่เคยอ่านผ่านตาที่พูดถึงความไม่สมบูรณ์แบบของมนุษย์
ประโยคข้างต้นดูจะเอนเอียงไปทางลัทธิและความเชื่อ
ความหมายข้างบนดูเหมือนจะขัดกับสิ่งที่ทิมพยายามกระทำมาเสมอ
รวมทั้งพวกเราที่กำลังมองหาโอกาสและเวลาเพื่อย้อนกลับไปแก้ไขความผิดพลาดนั้น
ปราชญ์ย่อมกระทำโดยการไม่กระทำ
ผมย้ำประโยคนี้อีกครั้งเมื่อได้อ่านบล๊อกนั้นผ่านตาซ้ำอีกครั้ง
เมื่อไม่มีอัตตาหรือตัวตน (No one)
การกระทำใดๆที่ตามมาย่อมไม่เกิดขึ้นเช่นกัน
ไม่รู้ว่าด้วยประโยคนี้ที่ทำให้ทิมเริ่มเปลี่ยนไป
หลังจากที่พ่อของเขาได้บอกเคล็ดลับบางอย่างเกี่ยวกับพลังวิเศษ
เขาลดการใช้พลังวิเศษของเขาลง
และปล่อยให้เหตุการณ์ในหนึ่งวันดำเนินไปเฉกเช่นคนธรรมดา
การค้นพบบทสรุปนี้กำลังให้คำตอบที่มีความหมายแก่เขา
การใช้ชีวิตที่แสนจะธรรมดานั้นทำให้เขาได้พบกับความสุขที่มากขึ้น
ทิมไม่จำเป็นต้องกลับไปเปลี่ยนแปลงอดีต
หรือกลับไปแก้ไขเหตุการณ์ที่ผิดพลั้งนั้นอีกต่อไป
เมื่อคนธรรมดาต่างเข้าใจความไม่สมบูรณ์แบบของกันและกัน
ไม่มีวิธีใดจะหลีกหนีและปัดป้องความด่างพร้อยที่ยังเกิดขึ้นแก่เราเสมอ
การเผชิญหน้าเป็นสิ่งที่เราต้องยอมรับและฝ่าฟัน
ริเริ่มจัดการกับสิ่งเกิดอยู่ในปัจจุบันให้ดีที่สุด
มาถึงตอนนี้คุณตอบคำถามได้หรือยัง
หากมีพรวิเศษสักหนึ่งข้อ
คุณจะกลับไปแก้ไข หรือจะปล่อยให้มันเป็นไปอย่างเดิม
หรือไม่บางทีมันอาจเกิดจากความไม่สมบูรณ์แบบของใครสักคน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น