Beyond Creative, We do

FB:Theexplorerphotographer

test

วันเสาร์ที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2555

Happy Birthday To Me .... 9490 Days of Happiness

วันนี้เป็นคล้ายวันเกิดของผม ไม่ว่าเวลาจะผ่านล่วงเลยมาเท่าไหร่ ก็ถือได้ว่าผมได้ใช้เวลาเดินทางมามากกว่า 9490 วันแล้ว  ณ วันนี้ผมอยากขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่างที่ผลักดันผมให้โตขึ้นมา ได้พบเจอประสบการณ์หลากหลาย ทุกอย่างล้วนเป็นสิ่งที่ผลักดันผมให้มีหลายๆอย่างในวันนี้ หลายครั้งที่ชีวิตอาจจะต้องมีล้มลุกคลุกคลานบ้าง และความทุกข์มักจะมาเยื่อนตัวเราเสมอ หากเราไม่ตั้งมั่นอยู่กับเข้าใจในเรื่องของ "ความคิด"



ช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมาผมเข้าสู่ชีวิตเบญจเพส หลายคนคงเชื่อตามโบราณว่าช่วงเวลานี้อาจจะเป็นช่วงเวลาที่เคราะห์ภัยจะถามหา ซึ่งผมก็เชื่อว่ามันเป็นเรื่องจริง ทุกๆวันผมต้องเผชิญหน้ากับสิ่งที่เรียกว่าความไม่สบายกาย ไม่สบายใจ คุณเคยเป็นไหมกับการทำงาน "โรคเครียด" โรคที่ทุกคนสามารถเป็นได้ทุกขณะ บางวันความคิดที่อยู่ในหัวผม มันทำให้ผมแทบจะบ้า ทุกเรื่องราวสุมเข้ามาดังหอกทิ่มแทงอยู่บนศีรษะ และดูเหมือนจะไม่มีทางจะเอามันออกไปได้ ถ้าเราไม่ควบคุมความคิดของตัวเอง

หากผมจะเชื่อว่าสิ่งต่างๆเหล่านี้คือเคราะห์ที่เข้ามาในช่วงวัยเบญจเพส มันก็คงจะเป็นตามที่ผมเชื่อ แต่ท้ายสุดในความทุกข์เหล่านั้น ผมก็ค้นพบความจริงอันถ่องแท้ ที่มันอยู่กับธรรมชาติมาตั้งแต่วันที่เราเกืดขึ้นมา "ความคิด" สามารถควบคุมทุกอย่าง คำนิยามของความคิดอาจจะมากมาย และอาจจะไม่สามารถใช้ประโยคเพียงสั้นๆมาอธิบายได้ ทุกๆคนสามารถใช้ความคิดเชื่อในสิ่งที่จะทำได้ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณมีสิ่งหนึ่งที่คุณตั้งใจจะทำมัน แล้วคุณต้องทำให้ได้ แม้ว่ามันจะยากเกินกำลังของคุณนะเวลานั้น แต่ถ้าคุณเชื่อ คุณคิดว่ามันต้องสำเร็จ ผมสามารถตอบคุณได้ว่าคุณทำมันสำเร็จไปแล้ว .....

อีกหนึ่งตัวอย่างที่ผมมักจะใช้มันก่อนเริ่มต้นทำสิ่งต่างๆอยู่เสมอ เมื่อเวลาที่เริ่มรู้สึกว่าความวุ่นวายกำลังเริ่มเข้ามาในความคิด จงเริ่มกระบวนการควบคุมสติก่อน แล้วค่อยๆเรีบเรียงความคิด หรือค่อยๆย่อยความคิดเหล่านั้นให้ออกมาเป็นสิ่งที่คุณสามารถเคี้ยวมันลงไปได้อย่างคล่องคอ แปลกไหมที่บางเวลาเราสามารถควบคุมความคิดของตัวเองได้ แต่ในหลายๆครั้งความคิดเรามักจะล่องลอยออกไปถึงอดีตบ้าง อนาคตบ้าง โดยไม่รู้ตัว นั่นเป็นเพราะเรายังไม่เข้าใจการดำรงอยู่กับปัจจุบัน การมีสตินั่นเอง

ท่านติช นัท ฮันห์ เป็นผู้หนึ่งที่ทำให้ผมเริ่มศึกษาหลักคำสอน และหลักปฏิบัติของท่าน ท่านติช นัท ฮันห์ เป็นนักบวชท่านหนึ่งที่สามารถอธิบายความหมายของการค้นหาความสุขได้อย่างชัดเจนดีเยี่ยม ท่านจะใช้ระฆังหนึ่งใบ เพื่อใช้เรียกสติกลับมาจากความวุ่นวายในความคิดได้เป็นอย่างดี ท่านสอนว่าวิธีหนึ่งที่เธอสามารถดำรงในปัจจุบันขณะอย่างเต็มเปี่ยมสมบูรณ์ได้นั้นคือ การเข้าพึ่งลมหายใจของเธอเอง


บางครั้งเรารู้สึกว่า เราไม่มีความหนักแน่น มั่นคง เราไม่เป็นตัวเอง เราถูกฉุดดึงไปด้วยสิ่งต่างๆ ความคิดต่างๆ โครงการต่างๆ ความกลัวและกิเลสต่างๆ เราไม่มีความสงบสุข นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเราจึงต้องเข้าพี่งพาลมหายใจเข้าของเรา เพราะการเข้าพึ่งพาลมหายใจเข้าคือการกลับมาเป็นตัวเองอีกครั้ง และนี่คือสิ่งที่เป็นไปได้ การเข้าพึ่งลมหายใจเข้าช่วยให้เธอกลับมาเป็นตัวเองได้ในทันที เธอจะรู้สึกปลอดภัยและมั่นคง เธอจะดำรงในปัจจุบันขณะ อยู่ในขณะนั้นได้อย่างเต็มเปี่ยม เธอจะตระหนักรู้ว่าเธอคือความมหัศจรรย์แห่งชีวิตและเธอสามารถสัมผัสกับความมหัศจรรย์แห่งชีวิตที่กำลังรายล้อมรอบเธออยู่ ลมหายใจเข้านั้นแสนมหัศจรรย์ ทำให้ฉันรู้สึกว่ากำลังอยู่ที่บ้านอย่างแท้จริง ลมหายใจเข้าทำให้ฉันรู้สึกว่าฉันได้มาถึงแล้ว และทำให้ฉันรู้ว่าฉันไม่ต้องวิ่งไล่ไขว่คว้าอะไรทั้งสิ้น นี่คือเหตุผลว่าทำไมการเข้าพึ่งลมหายใจเข้าจึงเป็นการปฏิบัติที่แสนมหัศจรรย์ ทุกคนต่างหายใจเข้าและหายใจออกอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่เป็นเรื่องจำเป็นที่เราต้องประดิษฐ์ลมหายใจเพื่อที่จะเข้าพึ่งลมหายใจ เพราะลมหายใจของเราอยู่ที่นั่นอยู่แล้ว เพียงเธอน้อมใจกลับมาเบิกบานกับปัจจุบันขณะ เธอจะมีชีวิตชีวาในทันทีทันใด เธอจะเป็นตัวเธอเอง เธอจะสามารถบ่มเพาะความมั่นคงและความอิสระให้กับตัวเองได้ เธอจะไม่เป็นเหยื่ออีกต่อไป ไม่เป็นทาสของใคร การหายใจอย่างมีสติระลึกรู้นั้นเป็นการปฏิบัติที่สำคัญมากและเป็นการปฏิบัติการไม่ปฏิบัติ เพราะอย่างไรเธอก็ต้องหายใจเข้าและหายใจออกอยู่แล้ว เธอเพียงแต่นั่งและเบิกบานกับลมหายใจเข้าของตัวเองแม้นั่นอาจทำให้ดูไม่เหมือนนักปฏิบัติแต่เธอกำลังเป็นนักปฏิบัติตัวจริงคนหนึ่งเลยทีเดียว เธอต้องไม่ใช้ความพยายามมากเกินไปเธอเพียงแต่เบิกบานกับลมหายใจเข้าของตัวเอง นี่คือสิ่งที่พระอาจารย์หลินยี่ต้องการให้เราปฏิบัติ ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้นเพียงแค่เป็นตัวของเราเอง นั่งตรงนั้นเพื่อเบิกบานกับลมหายใจเข้า เพื่อที่เธอจะเป็นทุกสิ่งและเป็นอมตะ


(ขอบคุณข้อมูลจาก website : http://www.thaiplumvillage.org )



ท่านพุทธทาสถือเป็นพระอาจารย์อีกท่านหนึ่งที่ผมพยายามค้นหาคำเทศนาของท่าน คำพูดที่มักจะได้ยินอยู่เสมอ ประโยคที่ว่าด้วย "ตัวกู ของกู" หรือ อัตตาที่มนุษย์พยายามสร้างมันขึ้นมาเพื่อปกป้องตัวเองจากสิ่งรอบข้างนั่นเอง จริงๆแล้วตัวเราก็เป็นแค่สิ่งสมมติขึ้นมา แล้วตัวเราก็สานต่อมันไปเรื่อยๆ มักรู้จักจบจักสิ้น ท่านพุทธทาสสอนให้รู้จักวางกับสิ่งที่เรียกว่าตัวกูของกู เพราะเมื่อสามารถวางมันได้แล้ว ชีวิตของเราจะดีมากขึ้นเลยทีเดียว



ช่วงปีที่ผ่านมานี้ผมขอบคุณความทุกข์ทุกอย่างที่ทำให้ผมรู้ว่าความสุขมันอยู่ใกล้ตัวเรานี่เอง ความสุขเกิดขึ้นได้เอง และอยู่รอบๆตัวของเรา ขอบคุณทุกๆคนที่ผ่านเข้ามาในห้วงเวลา 9490 วันของผม หลังจากนี้ผมจะอยู่กับชีวิตที่มีความสุขที่สุด แต่ผมจะยังไม่หยุดเดินทางตามหาความสุขเพราะยังมีความสุขอีกหลายๆรูปแบบที่เราต้องค้นให้พบ และผมยังคงต้องเล่าเรื่องราวของการค้นหาความสุขให้คนอื่นๆได้รู้ความจริงที่ไม่ใช่ความลับของโลกอีกต่อไป ณ Blog แห่งนี้

:) :):) :):) :):) :):) :):) :):) :):) :):) :):) :):) :):) :):) :):) :):) :):) :):) :):) :):) :):) :):) :):) :):) :):) :):) :):)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

มิงกะลาบา ความหวังใหม่ใต้เปลือกตา

มิงกะลาบา ความหวังใหม่ใต้เปลือกตา

ล้านนาแค่ขยิบตา

ล้านนาแค่ขยิบตา
บันทึกการเดินทางจำนวนสิบสี่ตอนที่จะเปลี่ยนมุมมองทุกการเดินทางให้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

Ads

Most Popular