ปกติแล้วเวลาคนเราจะเลือกซื้อของหรือสินค้าชิ้นใดชิ้นหนึ่ง เราคงจะต้องศึกษาคุณสมบัติ ราคา หรือคุณค่าของสิ่งของก่อนที่จะจ่ายเงินออกไปทุกครั้ง
ไม่แตกต่างจากการเดินชอปปิ้งตามห้างสรรพสินค้า หากในมือเรามีเงินเก็บซักก้อน ในเวลาที่ประจวบเหมาะกับช่วงเวลาที่ห้างสรรพสินค้าชื่อดังกำลังจะลดแลกแจกกระหน่ำในวันพรุ่งนี้
คงไม่ต้องบรรยายให้ได้อรรถรสมากมาย แค่ลองหลับตาจินตานาการถึงภาพผู้คนจำนวนมากที่กรูกันเข้าไปที่ใจกลางของบูท เสื้อผ้าแต่ละชิ้นถูกดึงคว้ากันอย่างบ้าคลั่ง ป้ายราคาสีแดงที่มีคำว่า "SALE" เป็นเหมือนเครื่องส่งสัญญาณอันรุนแรงให้กับสัญชาตญาณที่มีอยู่ในตัวพวกเราทุกคนให้ย่างก้าวเข้าไปหา
ราคาเป็นปัจจัยภายนอกที่คอยกระตุ้นในเกิดความต้องการซื้อสินค้าของมนุษย์เรา แต่จริงๆแล้วปัจจัยภายในอย่างเช่นความคิดจากตัวเราเองต่างหากที่กำลังประเมินความต้องการในการซื้อ เมื่อเปรียบเทียบกับ ราคา และคุณภาพ
และทุกครั้งปัจจัยภายนอกจะมีชัยชนะเหนือปัจจัยภายใน
หากวันนี้พยายามข่มใจไม่ซื้อสินค้าเหล่านั้น แต่พยายามสังเกต ลักษณะสินค้า แบรนด์ เกรด คุณภาพ เพราะถึงอย่างอย่างไรโปรโมชั่นจากทางห้างสรรพสินค้าคงไม่ได้ลดกระหน่ำแบบนี้แค่วันเดียวแน่ๆ
จากนั้นลองกลับมาวิเคราะห์เปรียบเทียบสินค้าที่ได้พบเจอ ค้นหาข้อมูลจากเวบไซด์ หรือสอบถามข้อมูล
เพิ่มเติมจากพนักงานขาย
วันพรุ่งนี้ให้ลองเดินกลับไปยังบูทสินค้าใหม่ ความคิดเราจะถูกกรองด้วยตัวแปรบางอย่าง และราคาคงไม่ใช่ปัจจัยหลักที่เราจะเลือกซื้อสินค้านี้อีกต่อไป การประเมินราคาที่เกิดจากตัวเรากำลังเป็นเหมือนพลังงานอีกด้านหนึ่ง ที่ทำให้การตัดสินใจในการเลือกซื้อสินค้าในครั้งนี้ง่าย หรือยากขึ้น
เสื้อผ้าแบรนด์ดังติดป้ายลด 90% อาจจะถูกเมินเฉยจากเราก็ได้ เมื่อการประเมินราคาด้วยตัวเราเองบอกว่าราคาจริงๆมันถูกกว่านี้ได้อีก
การเลือกซื้อสินค้าในร้านค้าเดียวโดยปราศจากการเปรียบเทียบกับร้านอื่นๆ อาจจะไม่ใช่วิธีที่ถูกต้องนักสำหรับนักช็อปในสมัยนี้ เมื่อผู้ขายมีสิทธิ์ที่จะนำเสนอสินค้าของตัวเองได้อย่างมีเสรีบนพื้นที่เดียวกัน ผู้ซื้อก็ควรจะใช้สิทธิที่ชอบธรรมนี้ในการเปรียบเทียบราคา หรือคุณภาพ เพื่อให้ได้รับความพึงพอใจที่สุด
และ "การประเมินราคาด้วยตัวเราเอง" ก็จะถูกนำเข้ามาเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจในการซื้อสินค้าต่างๆเสมอ
การตัดสินใจซื้อสินค้าใดสินค้าหนึ่ง คงไม่ได้เกิดจากการสร้างคุณภาพสินค้าที่ดีที่สุด หรือราคาเหมาะสมที่สุด แต่มันกำลังเกิดขึ้นจาก "ความคิด" ของเรา ความคิดด้วยกระบวนการที่เรียกว่า "การประเมินราคาด้วยตัวเราเอง"
การชอปปิ้งก็ไม่ต่างจากการใช้ชีวิตประจำวัน ในวันหนึ่งเราอาจจะต้องเจอเรื่องราวมากมายที่สุมรุมเข้ามา การใช้ประสบการณ์ที่ผ่านมาประเมินสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น บางทีก็ทำให้เราคาดหวังอะไรได้มากขึ้น หรือน้อยลงตามความเหมาะสมของสถานการณ์ที่สามารถเปลี่ยนแปลงไปได้ตลอดเวลา
เรื่องราวที่เข้ามาในชีวิตอาจจะไม่เหมือนกับราคาสินค้าที่ถูกกำหนดตายตัว จึงทำให้เราต้องรู้จักประเมินค่าให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปอยู่ตลอดเวลา
การรู้จักการประเมินสถานการณ์ข้างหน้าได้อย่างเหมาะสม จะทำให้ชีวิตของเรายืดหยุ่นมากขึ้น สบายมากขึ้น และมีความสุขมากยิ่งขึ้นด้วยนั่นเอง
ไม่แตกต่างจากการเดินชอปปิ้งตามห้างสรรพสินค้า หากในมือเรามีเงินเก็บซักก้อน ในเวลาที่ประจวบเหมาะกับช่วงเวลาที่ห้างสรรพสินค้าชื่อดังกำลังจะลดแลกแจกกระหน่ำในวันพรุ่งนี้
คงไม่ต้องบรรยายให้ได้อรรถรสมากมาย แค่ลองหลับตาจินตานาการถึงภาพผู้คนจำนวนมากที่กรูกันเข้าไปที่ใจกลางของบูท เสื้อผ้าแต่ละชิ้นถูกดึงคว้ากันอย่างบ้าคลั่ง ป้ายราคาสีแดงที่มีคำว่า "SALE" เป็นเหมือนเครื่องส่งสัญญาณอันรุนแรงให้กับสัญชาตญาณที่มีอยู่ในตัวพวกเราทุกคนให้ย่างก้าวเข้าไปหา
ราคาเป็นปัจจัยภายนอกที่คอยกระตุ้นในเกิดความต้องการซื้อสินค้าของมนุษย์เรา แต่จริงๆแล้วปัจจัยภายในอย่างเช่นความคิดจากตัวเราเองต่างหากที่กำลังประเมินความต้องการในการซื้อ เมื่อเปรียบเทียบกับ ราคา และคุณภาพ
และทุกครั้งปัจจัยภายนอกจะมีชัยชนะเหนือปัจจัยภายใน
หากวันนี้พยายามข่มใจไม่ซื้อสินค้าเหล่านั้น แต่พยายามสังเกต ลักษณะสินค้า แบรนด์ เกรด คุณภาพ เพราะถึงอย่างอย่างไรโปรโมชั่นจากทางห้างสรรพสินค้าคงไม่ได้ลดกระหน่ำแบบนี้แค่วันเดียวแน่ๆ
จากนั้นลองกลับมาวิเคราะห์เปรียบเทียบสินค้าที่ได้พบเจอ ค้นหาข้อมูลจากเวบไซด์ หรือสอบถามข้อมูล
เพิ่มเติมจากพนักงานขาย
วันพรุ่งนี้ให้ลองเดินกลับไปยังบูทสินค้าใหม่ ความคิดเราจะถูกกรองด้วยตัวแปรบางอย่าง และราคาคงไม่ใช่ปัจจัยหลักที่เราจะเลือกซื้อสินค้านี้อีกต่อไป การประเมินราคาที่เกิดจากตัวเรากำลังเป็นเหมือนพลังงานอีกด้านหนึ่ง ที่ทำให้การตัดสินใจในการเลือกซื้อสินค้าในครั้งนี้ง่าย หรือยากขึ้น
เสื้อผ้าแบรนด์ดังติดป้ายลด 90% อาจจะถูกเมินเฉยจากเราก็ได้ เมื่อการประเมินราคาด้วยตัวเราเองบอกว่าราคาจริงๆมันถูกกว่านี้ได้อีก
การเลือกซื้อสินค้าในร้านค้าเดียวโดยปราศจากการเปรียบเทียบกับร้านอื่นๆ อาจจะไม่ใช่วิธีที่ถูกต้องนักสำหรับนักช็อปในสมัยนี้ เมื่อผู้ขายมีสิทธิ์ที่จะนำเสนอสินค้าของตัวเองได้อย่างมีเสรีบนพื้นที่เดียวกัน ผู้ซื้อก็ควรจะใช้สิทธิที่ชอบธรรมนี้ในการเปรียบเทียบราคา หรือคุณภาพ เพื่อให้ได้รับความพึงพอใจที่สุด
และ "การประเมินราคาด้วยตัวเราเอง" ก็จะถูกนำเข้ามาเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจในการซื้อสินค้าต่างๆเสมอ
การตัดสินใจซื้อสินค้าใดสินค้าหนึ่ง คงไม่ได้เกิดจากการสร้างคุณภาพสินค้าที่ดีที่สุด หรือราคาเหมาะสมที่สุด แต่มันกำลังเกิดขึ้นจาก "ความคิด" ของเรา ความคิดด้วยกระบวนการที่เรียกว่า "การประเมินราคาด้วยตัวเราเอง"
การชอปปิ้งก็ไม่ต่างจากการใช้ชีวิตประจำวัน ในวันหนึ่งเราอาจจะต้องเจอเรื่องราวมากมายที่สุมรุมเข้ามา การใช้ประสบการณ์ที่ผ่านมาประเมินสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น บางทีก็ทำให้เราคาดหวังอะไรได้มากขึ้น หรือน้อยลงตามความเหมาะสมของสถานการณ์ที่สามารถเปลี่ยนแปลงไปได้ตลอดเวลา
เรื่องราวที่เข้ามาในชีวิตอาจจะไม่เหมือนกับราคาสินค้าที่ถูกกำหนดตายตัว จึงทำให้เราต้องรู้จักประเมินค่าให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปอยู่ตลอดเวลา
การรู้จักการประเมินสถานการณ์ข้างหน้าได้อย่างเหมาะสม จะทำให้ชีวิตของเรายืดหยุ่นมากขึ้น สบายมากขึ้น และมีความสุขมากยิ่งขึ้นด้วยนั่นเอง
โหวตให้อีก ๑ คะแนน (ดีแทค ๒)
ตอบลบว่าง ๆ อย่าลืมแวะไปประเมินราคาให้ สามก๊กวิทยา ด้วยนะครับ :)
http://www.thailandblogawards.com/blogs/show/1449
ขอบคุณคร้าบบ :)
ตอบลบ