ทุกวันนี้คุณยังพบกับความเบื่อหน่ายของชีวิตบ้างไหม เบื่อไหมที่ทุกวันจะต้องตื่นนอนตั้งแต่เช้าตรู่ ออกเดินทางไปพร้อมกับกระต่ายน้อบบนพระจันทร์ที่ยังไม่ตกสู่ดิน เบียดเสียดอยู่บนรถโดยสาร หรือหลับอยู่ในรถตู้โดยสาร สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เราไม่อาจหนีพ้น แต่หากเราต้องเข้าใจว่าสิ่งนี้เป็นวัฏจักรของการใช้ชีวิตของคนคนหนึ่งที่เติบโตถึงวัยที่สามารถเป็นกำลังของครอบครัวได้ ก็จะต้องทำงานหาเงินเพื่อมาจุนเจือครอบครัว ซึ่งกิจกรรมนี้ได้ถูกบรรจุอยู่ในหน้าที่ประชาชนของคนส่วนใหญ่ไปแล้ว และตราบใดที่เรายังต้องดำรงชีวิตอยู่ด้วยความต้องการพื้นฐานอย่างปัจจัย 4 ที่ปัจจุบันสามารถหาซื้อได้ง่ายด้วย "เงิน" ยิ่งเป็นสิ่งที่ไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่าจะหนีความเบื่อหน่ายหล่านั้นไปได้อย่างไร
หากลองทบทวนว่าสิ่งใดๆที่จะสามารถทำให้เราดำรงชีวิตอยู่ได้ พร้อมกับการทำงานที่เป็นสุข สิ่งหนึ่่งสิ่งนั้นคือ "แรงบันดาลใจ" ไม่ว่าเราจะคิดหรือตั้งใจจะทำอะไรให้สำเร็จ ก่อนความคิดนั้น เราลองค้นหาแรงบันดาลใจว่าสิ่งที่เป้นจุดมุ่งหมายของการกระทำในครั้งนั้นคืออะไร ปลายทางของการกระทำนี้ผลตอบแทนที่จะได้กลับมาคืออะไร นักประพันธ์หรือจิตรกรชื่อดังหลายๆคนยังต้องใช้แรงบันดาลใจในการสร้างบทกวี ดนตรี ศิลปกรรมชั้นยอดออกมา ฉันใดก็ฉันนั้นเราก็เป็นมนุษย์เหมือนๆพวกเขา แต่สิ่งที่แตกต่างคือ เราใช้ชีวิตในอีกรูปแบบ รูปแบบของมนุษย์เงินเดือนที่ต้องหาเช้ากินค่ำ ทำอะไรซ้ำๆเดิมๆ หรือบางครั้งเราก็ต้องทำงานตามที่บริษัทมอบหมายเท่านั้น ถ้าจะไปรอแรงบรรดาลใจก่อนจะลงมือทำก็คงยาก แต่หากเราลองค้นหาแรงบันดาลใจในขณะที่เรากระทำสิ่งต่างในชีวิตประจำวัน แล้วลองสำรวจดูในแต่ละอากัปกิริยาที่ได้ลงมือทำว่าแรงบันดาลใจของเราซ่อนอยู่ที่ใด และพยายามค้นหาให้เจอ ผมเชื่อว่าทุกๆอย่างจะประสบความสำเร้จ และสุดท้ายจะได้พบกับความสุขที่แท้จริงที่ลงมือทำในสิ่งนั้นๆแน่นอน เปรียบเสมือนกับหลอดไฟที่ส่องแสงสว่าง จะมีใครรู้บ้างก่อนที่หลอดไฟจะส่องแสงให้มีรัศมีไปได้ไกล จุดกำเนิดของมันอยู่ที่ไส้หลอดที่รองรับให้ความร้อนของไฟฟ้าไหลเข้ามารวมกันเต็มที่ ก่อนที่จเป็นชนวนในการเล่งแสง ฉะนั้นจงทำตัวเราให้เป็นเหมือนไส้หลอดไฟ ที่พร้อมจะรองรับแรงบันดาลใจ เพื่อที่จะจุดติดไฟและส่องแสงไปให้สุดตราบนานเท่านาน
หากลองทบทวนว่าสิ่งใดๆที่จะสามารถทำให้เราดำรงชีวิตอยู่ได้ พร้อมกับการทำงานที่เป็นสุข สิ่งหนึ่่งสิ่งนั้นคือ "แรงบันดาลใจ" ไม่ว่าเราจะคิดหรือตั้งใจจะทำอะไรให้สำเร็จ ก่อนความคิดนั้น เราลองค้นหาแรงบันดาลใจว่าสิ่งที่เป้นจุดมุ่งหมายของการกระทำในครั้งนั้นคืออะไร ปลายทางของการกระทำนี้ผลตอบแทนที่จะได้กลับมาคืออะไร นักประพันธ์หรือจิตรกรชื่อดังหลายๆคนยังต้องใช้แรงบันดาลใจในการสร้างบทกวี ดนตรี ศิลปกรรมชั้นยอดออกมา ฉันใดก็ฉันนั้นเราก็เป็นมนุษย์เหมือนๆพวกเขา แต่สิ่งที่แตกต่างคือ เราใช้ชีวิตในอีกรูปแบบ รูปแบบของมนุษย์เงินเดือนที่ต้องหาเช้ากินค่ำ ทำอะไรซ้ำๆเดิมๆ หรือบางครั้งเราก็ต้องทำงานตามที่บริษัทมอบหมายเท่านั้น ถ้าจะไปรอแรงบรรดาลใจก่อนจะลงมือทำก็คงยาก แต่หากเราลองค้นหาแรงบันดาลใจในขณะที่เรากระทำสิ่งต่างในชีวิตประจำวัน แล้วลองสำรวจดูในแต่ละอากัปกิริยาที่ได้ลงมือทำว่าแรงบันดาลใจของเราซ่อนอยู่ที่ใด และพยายามค้นหาให้เจอ ผมเชื่อว่าทุกๆอย่างจะประสบความสำเร้จ และสุดท้ายจะได้พบกับความสุขที่แท้จริงที่ลงมือทำในสิ่งนั้นๆแน่นอน เปรียบเสมือนกับหลอดไฟที่ส่องแสงสว่าง จะมีใครรู้บ้างก่อนที่หลอดไฟจะส่องแสงให้มีรัศมีไปได้ไกล จุดกำเนิดของมันอยู่ที่ไส้หลอดที่รองรับให้ความร้อนของไฟฟ้าไหลเข้ามารวมกันเต็มที่ ก่อนที่จเป็นชนวนในการเล่งแสง ฉะนั้นจงทำตัวเราให้เป็นเหมือนไส้หลอดไฟ ที่พร้อมจะรองรับแรงบันดาลใจ เพื่อที่จะจุดติดไฟและส่องแสงไปให้สุดตราบนานเท่านาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น