Beyond Creative, We do

FB:Theexplorerphotographer

test

วันอาทิตย์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ฤดูที่ฉัน(ไม่)เหงา


ฤดูที่ฉัน(ไม่)เหงา

ฝนตกพรำๆผสมผสานกับความเงียบงันที่ซ่อนเล้นอยู่ใต้เงาพระจันทร์ยามค่ำคืน เป็นเวลาเดียวกับที่บางคนเริ่มหลับใหลภายใต้บรรยากาศที่เย็นสบายจากอุณหภูมิของเม็ดฝน

จะเว้นก็แต่บางคนที่ยังคงนั่งมองหยดน้ำเล็กๆที่ไหลกระทบกับแสงฟลูออเรสเซนต์ พร้อมกับดื่มด่ำบรรยากาศที่ดูเงียบสงัด แต่ภายในใจกลับเต้นแรงระรัวและเริ่มดังถี่ขึ้น

อารมณ์และความรู้สึกเบาหวิว+ว่างปล่าวมักเริ่มจะก่อตัวขึ้น ท่ามกลางหยดฝนและเสียงฟ้าแลบเป็นระยะๆ ยิ่งผู้คนในสังคมสมัยนี้ชอบหลีกหนีความวุ่นวายจากบ้านที่มีผู้คนอาศัยอย่างแออัด ออกไปเผชิญความโดดเดี่ยวอยู่บนสิ่งก่อสร้างที่สูงลิ่ว

สิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่นี้มีทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน แต่กลับไม่มีเครื่องทำความร้อนติดตั้งอยู่ภายในห้อง

ฮีตเตอร์ที่สามารถสร้างความอบอุ่นโดยไม่ต้องเสียบปลั๊ก เพราะความอบอุ่นของมันถูกสร้างขึ้นจากหัวใจของผู้คนที่อาศัยอยู่ในบ้านเอง

แม้จะเปิดเสียงละครดังหลังข่าวให้ดังแค่ไหน ฝนที่สาดซัดด้วยความรุนแรงมาเท่าใด ที่ภายในใจกลับรับรู้ได้ถึงแค่เพียงความเงียบสงัด

เวลานี้ความเหงาคงเข้ามาเยี่ยมเยือนเราแล้วสินะ

(2)

'ฉันคิดถึง และยังคิดถึง ในคืนที่ฝนโปรยเราอยู่ด้วยกันตรงนี้'
เสียงเพลงขับกล่อมในค่ำคืนนี้ ทำให้ผมรู้จักกับความเหงาได้ดีขึ้น

ความเหงาไม่สามารถเกิดขึ้นได้เพียงลำพัง หากเขายังฝ่าฝนกางร่มพาเพื่อนอีกคนหนึ่งที่มีชื่อว่า "ความคิดถึง" มาด้วยกันเสมอ

แปลกจังที่เราไม่สามารถรู้สึกเหงาโดยที่ไม่ต้องคิดถึงสักคน

แม้คนๆนั้นอาจจะเป็นคนที่เรารู้จัก คนที่เราอยากรู้จัก หรือเป็นคนที่เรายังไม่เคยรู้จักเลยก็ตาม

ความคิดมักสร้างสรรค์เรื่องราวจากเสียงหยดฝนที่โปรยปราย กลับกลายเป็นเรื่องราวต่างๆนานารุมปะดังอยู่ในหัว ประกอบด้วยเสียงเพลงเบาๆจากโทรศัพท์มือถือ เรื่องราวความรักจากพระเอก-นางเอกในละครหลังข่าว เริ่มผสมปนเปให้ค่ำคืนนี้เริ่มเย็นจะเยือกเข้าไปทุกขณะ

แต่ยิ่งเหงามากเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้เรารู้สึกคิดถึงใครคนหนึ่งมากขึ้นเท่านั้น

(3)

ในขณะที่เราใช้เวลาลากเส้นทางให้ชีวิตหมดไปกับการสร้างพื้นที่ส่วนตัว กลับเป็นเวลาเดียวกันที่ทำให้ "ความเงียบเหงา" เริ่มแทรกซึมเข้ามาให้หัวใจมากขึ้น

พื้นที่ส่วนตัวที่สร้างขึ้นกลับกีดกั้นความรู้สึกดีๆที่เคยส่งมอบต่อคนรอบข้างที่เรารู้จัก และคนที่เราอยากทัก

วันนี้พื้นที่ส่วนตัวลอยอยู่บนตึกระฟ้า แต่พื้นที่นี้กลับบีบให้หัวใจเราให้เล็กลง และเริ่มเลือกที่จะทำความรู้จักกับตัวเองก็พอ

ในคืนที่ฝนตกเช่นวันนี้ ผมกำลังก้มลงมองผู้คนที่อยู่เดินตากฝนอยู่พื้นดิน พร้อมกับกุมก้อนเนื้อใต้ราวนมซ้ายไว้อย่างแน่นหนา เพื่อบอกกับตัวเองให้ลงมือทำในสิ่งที่ง่ายที่สุด

ง่ายแค่ไหนก็แค่ยื่นมือข้างหนึ่งไปกดสวิตซ์ ฮีตเตอร์ตัวนี้ไม่ต้องเสียบปลั๊กมันแค่รอคอยให้คนที่คิดถึงมันกลับมาก็พอ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

มิงกะลาบา ความหวังใหม่ใต้เปลือกตา

มิงกะลาบา ความหวังใหม่ใต้เปลือกตา

ล้านนาแค่ขยิบตา

ล้านนาแค่ขยิบตา
บันทึกการเดินทางจำนวนสิบสี่ตอนที่จะเปลี่ยนมุมมองทุกการเดินทางให้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

Ads

Most Popular