บุฟเฟ่ต์ 90 นาที
พุงหย่อนๆยามเย็นมักจะเริ่มส่งเสียงเรียกร้องอาหารมื้อค่ำจานโตๆ
ยิ่งวันไหนหย่อนคล้อยจากการถูกใช้งานหนักมากๆ อาหารจานเดียวครบหลักโภชนาการที่คุณครูที่เคยสอนตอนสมัยประถมก็เอาไม่อยู่เหมือนกัน
จะเดินหาร้านอาหารซักร้านในวันที่ฝนตกนั้นคงไม่ยากนัก ถ้าหากคนอื่นๆไม่ได้ติดฝนในห้างที่ดูห่างไกลอย่างที่ผมยืนอยู่เช่นวันนี้
ป้ายบุฟเฟ่ต์ ติดราคา 299 บาทตัวโต กำลังส่งเสียงเรียกหนังท้องหย่อนยานของผม ให้รีบกุลีกุจอเข้าไปนั่งรอผิงหน้าเตาไฟอ่อนๆ มือขวาคว้าตะเกียบพร้อมที่จะคีบชิ้นเนื้อแร่บางๆ มาปิ้งให้พอสุก ก่อนตักเข้าปากลงสู่หนังท้องผู้หิวโหยต่อไป
(2)
นี่เป็นครั้งที่ 2 ของเดือนที่พุงหย่อนๆของผม ได้มีโอกาสสัมผัสกับบรรยากาศร้านบุฟเฟ่ต์สไตล์ที่แตกต่างกันออกไป
แต่แปลกที่ทั้งสองร้านมีกฏกติกาเดียวกัน ที่ลูกค้าสามารถเป็นนักปิ้งมือฉมังได้เฉพาะในเวลา 90 นาที
ความอร่อยของบุฟเฟ่ต์จะเริ่มก็ตั้งแต่เนื้อชิ้นแรกที่วางลงกระทบกับเตาสีครึ้มๆ ชิ้นเนื้อบางๆย่างพอสุกถูกบรรจงนำเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย
แต่ความเอร็ดอร่อยมันมักไม่จีรังเท่าไหร่ เมื่อเวลาผ่านไปยังนาทีที่ 31
เนื้อหมูที่เคยแทบจะละลายให้ปากกลับดูแข็งกร้าน ลิ้นเริ่มสัมผัสได้ถึงความเค็มจากซอสในเนื้อไก่หมักมากับซอสสไปซี่ น้ำซุปที่เคยเข้มข้นกลมกล่อมกลับรู้สึกได้แต่ผงชูรสที่ลอยอยู่ที่ข้างก้น
จากนาทีนี้เป็นต้นไปอัตราเร็วในการรับประทานบุฟเฟ่ต์จะเริ่มตกลง และคงหลงเหลือไว้แต่กิจกรรมการเล่นซ่อนแอบ(ชิ้นเนื้อ)
(3)
90 นาทีคงไม่นานเท่า 90 ปี แต่นั่นก็พอทำให้หนังท้องที่เคยหมดกำลัง กล้าที่จะเบ่งตัวเิองให้ตึงขึ้นใหม่อีกครั้ง
30 นาทีถูกเร่งรีบให้หมดไปกลับการขวนขวายปริมาณชิ้นเนื้อ(ปิ้ง)ที่สามารถตกลงสู่กระเพาะได้มากที่สุด และคิดว่าปริมาณนั้นสามารถทำให้หนังท้องเราอิ่มไปได้จนครบกำหนดเวลา
แต่กลับกันที่ 30 นาทีให้หลังนั้น ความอร่อยที่เคยมีกลับถูกปฏิเสธ หลงเหลือไว้แต่เพียงการฝืนตักอาหารเข้าปาก และเคี้ยวแบบฝืนๆเบาๆเพื่อทำลายหลักฐานต่อไป
'ยอมทุ่มเทแรงกายให้มากที่สุดใน 1/3 ของช่วงวัย เพื่อหวังจะใช้ชีวิตบั้นปลายที่เหลือให้สบาย' ผมเคยคิดเช่นนั้น
'เมื่อชีวิตยังมีแรง+กำลังที่มากพอ การใช้เวลา 1/3 ให้หมดไปกลับการสร้างอนาคตคงไม่เป็นการเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์มากนัก' คุณก็เคยคิดเช่นนั้น
เวลาจึงถูกเร่งรีบให้หมดไปเสียตั้งแต่เยาว์วัย
เพราะเพียงแค่ต้องการ เห็นอนาคตที่ชัดเจนให้เร็วขึ้น
ความฝันจากครั้งเยาว์วัยกำลังถูกบดบังไปด้วยเมฆครึ้มฟ้าครึ้มฝน ด้วยอนาคตที่มองไม่เห็นของใครบางคน
(4)
ผมชักไม่แน่ใจ หากผมยังคงเร่งรีบกินแต่เบค่อนชิ้นโตๆหลายๆชิ้นตรงหน้าอยู่ ผมอาจจะพลาดโอกาสที่จะได้ทำความรู้จักกับเนื้อบริเวณอื่นๆของเจ้าหมูตัวนี้
ยังมีสันนอก สันใน และสันคอหมู พวกมันกำลังเปล่งเสียงเรียกร้องให้ผมได้ลองเปิดประตูหัวใจออกไปชิมมันอีกครั้ง รสชาติอบอวลชวนนุ่มลิ้นเมื่อเวลาเลยไปจนถึงนาทีที่ 60 ยังคงมีอยู่จริง
บางคนค้นพบตัวเองได้เร็วและมุ่งตรงไปยังสิ่งที่ตนเองเชื่อมั่น จุดหมายที่ปลายอุโมงค์ย่อมอยู่ไม่ไกลมากนัก
ต่างจากบางคนที่กำลังอยู่ในช่วงเวลาค้นหาตัวตน คงไม่ง่ายนักที่จะเลือกหรือตัดสินใจทุ่มเทกับสิ่งๆเดียวอย่างสุดตัว หากนั่นเป็นทางที่ผิด การถอยหลังกลับอาจจะต้องใช้เวลามากกว่าเดิมหลายเท่าตัว
และผมก็เช่นกัน
แม้วันนี้แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ของใครหลายคนอาจจะยังอยู่ห่างไกล
แต่มั่นใจได้เลยว่า "เวลา" ยังคงมีเพียงพอสำหรับทุกๆคน
เพราะเมื่อตะกี้พนักงานเพิ่งเดินมาบอกผมว่า เขากำลังจะเริ่มจับเวลา
มาเริ่มคืบชิ้นเนื้อชิ้นแรกวางบนเตาไฟที่คุกรุ่นไปด้วยความฝันกันเถอะครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น