Beyond Creative, We do

FB:Theexplorerphotographer

test

วันอังคารที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2556

กระดาษห่อของฉัน

กระดาษห่อของฉัน

ผมเพิ่งจะได้รับของขวัญชิ้นใหญ่เมื่อวันก่อน
ใหญ่ขนาดไหนก็ตีราคาออกมาเป็นตัวเลขคงไม่ได้
ของขวัญที่เปรียบเสมือนถ้อยคำฝากฝังให้ใจได้จดจำ
หากวันนี้ถึงตัวจะอยู่ห่างกันจนแสนไกล
แต่ว่าหัวใจเรานั้นไม่เคยจะห่างกันเลย

กล่องใบเล็กกระทัดรัดถูกห่อด้วยกระดาษสีสันงามสวย พร้อมผูกโบว์ทัดดอกจำปีสีขาวงามสง่า กล่องใบเล็กถูกบรรจงงัดแงะด้วยฝีไม้ลายมืออันปราณีต ไม่นานนักเจ้าของข้างในชิ้นหลักก็ถูกนำออกมาพักอยู่บนโต๊ะ ทิ้งไว้ก็แต่เจ้ากระดาษห่อของขวัญที่ฉันเคยใช้ความพยายามอย่างสุดกำลังแกะมันออกมาอย่างพิถีพิถัน ในที่สุดเจ้ากระดาษแผ่นน้อยก็ได้แต่หมอบหลับไปกับกองขยะชิ้นโต

คิดไปคิดมาก็ได้แต่ถามตัวเองว่าฉันจะใช้เวลาที่เหลือเฟือแกะมันไปทำไม ก่อนจะเริ่มพริ้มตาหลับลงในคืนที่ฟ้าเริ่มคำราม

ภายใต้คืนอันเงียบสงัดที่มีแต่เสียงสายลมสาดซัดพัดกระหน่ำ หยาดน้าฟ้าที่โปรยปรายลงบนหลังคาสังกะสีดัง แต้ก แต้ก หากไม่มีเสียงอะไรที่แปลกประหลาดไปมากกว่านี้ ฉันแน่ใจได้เลยว่ามันเป็นเสียงกระซิบที่ได้ยินมาจากบริเวณหนึ่งใกล้ๆกับหัวนอน

"ครึกกก ครึกกก ฟ้าววว ฟิ้วววว "

"เธอไม่รู้สึกน้อยใจตัวเองบ้างเหรอ
เธอมีเพียงโอกาสและช่วงเวลาที่แสนสั้นเสียเหลือเกิน
เธอสามารถทำให้สิ่งของสิ่งหนึ่งมีค่าตลอดระยะเวลาที่เธออยู่กับเขา
แต่แล้วเมื่อเจ้าของตัวจริงได้พบกับความประหลาดใจบางอย่าง
เขาก็ได้แต่ทิ้งเธอไว้เพียงลำพัง"
เจ้าถังขยะรุ่นพี่กำลังพูดตัดพ้อในชะตากรรมของเจ้ากระดาษห่อของขวัญน้อย

"ผมไม่เคยคิดเสียใจหรือเสียดายเลยครับ
แค่ผมสามารถทำให้ใครซักคนนึงมีความสุขในช่วงเวลาหนึ่ง
อีกไม่ช้าไม่นานผมก็ต้องถูกนำไปรีไซเคิล
พร้อมกลับไปทำหน้าที่กระดาษที่ใช้ห่อของขวัญส่งมอบความสุขให้กับเจ้าของคนอื่นๆต่อไป" เจ้ากระดาษห่อของขวัญน้อยพูดพลางกับแอบยิ้มที่มุมปากเล็กๆ

"เธอไม่นึกอิจฉาเจ้าของขวัญบางเลยรึ
มันทั้งได้ถูกกอด ถูกรัก ถูกทะนุถนอม
ไม่เหมือนกับเธอที่สุดท้ายก็ต้องถูกขยำ
ดูไร้ค่าอย่างไม่มีชิ้นดี"
เจ้าถังขยะรุ่นเริ่มทำหน้านิ่วคิ้วขมวด

"หน้าที่ของผมคือการทำให้โลกใบนี้น่าอยู่ขึ้นครับ
แม้ผมจะมีโอกาสและช่วงเวลาได้ทำหน้าที่เพียงน้อยนิด
แต่ทุกครั้งที่ผมมองเห็นภาพรอยยิ้มจากผู้รับนั้น
กลับทำให้ผมตระหนักเสมอว่า
นี่แหละหน้าที่ที่ผมจะต้องทำมันต่อไป
และหน้าที่นี้ผมได้เป็นคนเลือกมันเอาไว้แล้ว"
เจ้ากระดาษห่อของขวัญน้อยเริ่มเป่าปากอัดลมแล้วแอบแบ้ว

เสียงสนทนาเริ่มขาดๆหายๆ อาจเป็นเพราะประสาทการรับฟังของผมเริ่มปิดตัวลงไปพร้อมกับเสียงฟ้าร้องและเสียงคำรามจากเทพอัคนีที่อยู่บนฟ้าไกล

ผมไม่แน่ใจว่าเริ่มผลอยหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ พอรู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ สิงโต นำโชค มาร้องเพลงคำรามแผ่วๆปลุกให้ลุกอยู่ข้างรูหู

ผมไม่รอช้าที่จะลุกขึ้นจากเตียงเพื่อหยิบกระดาษห่อของขวัญที่ทิ้งไปเมื่อคืนมาถามไถ่ กระดาษแผ่นนี้ยังคงดูเงียบสงัดและยับยู่ยี่ ผมมองไม่เห็นแม้แต่ร่องรอยใบหน้าแอบแบ้วที่แอบได้ยินเมื่อคืนก่อน

กระดาษห่อของขวัญยังคงดูไม่แตกต่างไปจากเดิม
ทุกสรรพสิ่งดูเงียบงันจนทำให้อดคิดสงสัยไม่ได้

หากเจ้ากระดาษห่อของฉันตัดสินใจลงมือทำในสิ่งเล็กๆน้อยๆนี้มาตลอด แล้วพวกเรามีสิทธิหน้าที่ที่จะทำโลกใบนี้น่าอยู่ได้อย่างไร
นั่นอาจจะไม่ใช่การกระทำที่ยิ่งใหญ่ ยิ่งยวด หรือยิ่ง..ยง
แต่เป็นหน้าที่ที่คอยขับเคลื่อนมวลสารแห่งความสุขด้วยถุงบิ๊กแบล็ค
ด้วยกำลังสองแขนที่มีพอๆกันเราจักสร้างหน้าที่เล็กๆแต่อันยิ่งใหญ่
อาจจะไม่ต้องรอให้เกิดวิกฤตการณ์บางอย่างเป็นภาคต่อที่สอง
เริ่มตอบแทนโลกใบกลมๆที่มี พวกเรา พวกเธอ และพวกผมพึ่งพาอาศัยอยู่ร่วมกันวันนี้

ด้วยการเก็บกระดาษห่อของขวัญชิ้นนี้ไปรีไซเคิลเทอญ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

มิงกะลาบา ความหวังใหม่ใต้เปลือกตา

มิงกะลาบา ความหวังใหม่ใต้เปลือกตา

ล้านนาแค่ขยิบตา

ล้านนาแค่ขยิบตา
บันทึกการเดินทางจำนวนสิบสี่ตอนที่จะเปลี่ยนมุมมองทุกการเดินทางให้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

Ads

Most Popular