มิงกะลาบา
ความหวังใหม่ใต้เปลือกตา
(ฉบับก่อนออกเดินทาง)
::: ตอนที่ 8 / รถไฟจะไปสยาม :::
แน่นอนว่าการเดินดุ่ยๆไปคุยกับคนงานพม่าโดยตรง
อาจจะทำให้เราต้องหงายหลังกลับมาไม่เป็นท่า
ภาษายังคงเปรียบได้ดั่งเส้นใยบางๆที่กั้นระหว่างสองเรา
จนกระทั่งผมได้มารู้จักกับหญิงสาวชาวพม่าคนหนึ่ง
ที่เข้ามาอาศัยอยู่ในเมืองกรุง
เธอรับบทบาทเป็นแม่บ้านของออฟฟิศที่ผมอยู่
จากการสอบถามผมถึงได้ทราบว่า
เธอจากบ้านมาเกือบจะครบสิบปีแล้ว
จากสาววัยละอ่อนอายุหลักสิบปลายๆ
ข้ามน้ำ,ข้ามทะเล,ข้ามภูเขา
เพื่อมาแสวงหาความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นในดินแดนที่เขาไม่คุ้นเคย
ผมรู้สึกอึ้ง+ทึ่งกับความกล้าของเธอในครั้งนั้น
การเดินทางมาไกลกว่าหมื่นลี้ย่อมมีจุดประสงค์ที่ยิ่งใหญ่
สาวน้อยคนนี้ไม่เคยปล่อยเวลาว่างให้กับเรื่องที่ไร้สาระ
แม้ผมไม่รู้ว่าเป้าหมายของเธอคืออะไร
แต่ผมว่ามันคงยิ่งใหญ่และคุ้มค่ากับการตัดสินใจในวันนั้น
บางทีการใช้ชีวิตโดยไม่มีเป้าหมาย
ก็ไม่ต่างอะไรไปจากการหายใจทิ้งไปวันๆ
ผมเชื่อว่าเราทุกคนมีเป้าหมายของตัวเองอยู่ในใจ
เหลือแค่ใช้ความกล้าเปิดมันออกมาเท่านั้นเอง
ช่วงสายวันนี้ผมมีนัดกำหนดการเดินทางไปยังสถานีสยาม
ซึ่งน้องสาวชาวพม่าคนนี้ก็กำลังจะไปทำธุระที่นั่นด้วย
ผมบอกกับเธอว่าผมกำลังจะไปเที่ยวที่บ้านเกิดของเธอ
เธอจึงเริ่มแนะนำผมว่า
ที่นั่นมีเจดีย์มากมายรวมถึงพระธาตุอินทร์แขวนที่เธอเคยไป
เธอเล่าต่อว่าการเดินทางไปพระธาตุอินทร์แขวนตอนนี้สะดวกมาก
แต่จะไม่บอกว่าพาหนะที่ใช้ในการเดินทางนั้นคืออะไร
เธอบอกว่าผมต้องไปพิสูจน์ด้วยตาของตัวเอง
ผมเห็นว่าเธอทำงานทุกวันจนแทบไม่มีวันหยุด
จึงตั้งคำถามต่อว่าช่วงสงกรานต์นี้จะกลับบ้านไหม
ดูเหมือนคำตอบนั้นจะติดอยู่ที่ริมฝีปากของเธอ
"หนูจะหาเงินแล้วกลับไปปลูกบ้าน"
นั่นคือเสียงเบาๆของผู้หญิงตัวเล็กๆที่ผมได้ยิน
ก่อนที่บันไดเลื่อนจะพาเราออกไปจากสถานี
คำตอบสั้นๆทำให้ผม
ต้องกลับไปครุ่นคิดหาความหมายของการใช้ชีวิต
ทุกคนเริ่มต้นการเดินทางที่สถานีเดียวกัน
ณ จุดสตาร์ท ความฝัน,ความเชื่อ,และความหวัง
ต่างล่องลอยให้เราได้ไขว่คว้ามาครอบครอง
แต่เมื่อรถไฟเริ่มเคลื่อนที่ออกจากสถานี
เรากลับเริ่มโฟกัสไปยังสิ่งสวยงามที่อยู่ข้างทางเสียมากกว่า
เมื่อคว้าสิ่งที่สวยงามกว่ามาเก็บไว้มากเกิน
มือที่กำความฝันไว้แน่นจึงค่อยๆคลายออก
ความเชื่อกำลังจะถูกถอดทิ้งไว้ที่กลางทาง
และความหวังก็ดับมืดลงท่ามกลางแสงสีเสียงที่ส่งเสียงได้ดังกว่า
สถานีปลายทางที่วาดหวังไว้จึงค่อยๆเลื่อนออกไปจนไกลลิบตา
แต่สำหรับสถานีปลายทางของน้องสาวคนนี้มันช่างชัดเจนเสียเหลือเกิน
รถไฟกำลังแล่นออกจากอุโมงค์ที่ยาวไกลและมืดมิด
แสงสว่างหลังจากนี้คือสิ่งที่พวกเราต่างค้นหา
รวมทั้งตัวผมด้วยเช่นกันไหม
ปล. ช่วงที่ผมเขียนบันทึกนี้ น้องได้กลับไปรักษาตัวอยู่ที่พม่า
ขอให้หายไวๆและกลับมาทำตามความฝันให้สำเร็จนะครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น