บนถนนที่ดูราบเรียบมักมีสิ่งที่คาดไม่ถึงอยู่เสมอ
ใครกันที่นำไม้คั่นสี่เหลี่ยมมาวางไว้กีดขวางการเดินทางอันแสนสงบสุข ถนนหนทางที่เรามองเห็นตั้งแต่ระยะทางเมื่อห้านาทีที่แล้วเปลี่ยนไป ภาพทางเดินที่โรยด้วยกลีบกุหลาบกลับเปลี่ยนไปเป็นเส้นทางที่โรยด้วยหนามกุหลาบแทน
นักวิ่งข้ามเครื่องกีดขวางคนหนึ่งกำลังเริงร่าอยู่บนลู่วิ่งคู่ขนานสองข้างทางที่เต็มไปด้วยนักวิ่งคู่แข่ง นักวิ่งเพิ่งจะกระหยิ่มยิ้มย่องไปเมื่อห้านาทีที่ผ่านมา ก่อนที่จะมาพานพบกับรั้วกั้นขนาดมหึมา
สิ่งกีดขวางที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้ากำลังส่งสัญญาณให้เขาหลบหรือหลีกให้ห่างจากลู่วิ่งเดิม เป็นที่รู้กันว่าหากนักวิ่งเลือกที่จะเปลี่ยนลู่วิ่งกระทันหันระหว่างการแข่ง เขาจะถูกปรับให้แพ้ในการแข่งขันในครั้งนี้ไปโดยปริยาย
ในเวลาที่เหลืออีกไม่ถึงเสี้ยววินาที นักวิ่งคิดในใจว่าเขาจะตัดสินใจวิ่งฝ่าสิ่งกีดขวางนี้ให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยให้แบบตาต่อตาฟันต่อฟัน ทั้งๆที่รู้ว่าผลลัพธ์ของการพุ่งชนสิ่งกีดขวางในครั้งนี้จะทำให้เขาต้องบาดเจ็บ หรืออาจจะไปต่อไม่ไหวในทันที
แต่ยังดีที่สมองส่วนจิตใต้สำนึกยังส่งกระแสประสาทมายับยั้งการตัดสินใจครั้งนี้เอาไว้
ณ เศษเสี้ยวเวลาอันน้อยนิดนี้นักวิ่งไม่มีเวลาตัดสินใจมากเพียงพออีกต่อไปแล้ว ในขณะเดียวกันสัญชาตญาณของเขาที่ส่งสัญญาณบังคับให้กล้ามเนื้อข้างขวาถีบตัวเองขึ้นลอยสู่เหนืออากาศ ไม่นานนักตัวเขาก็ลอยข้ามเครื่องกีดขวางไปได้ด้วยท่าทางที่สวยสดงดงาม
"แทบจะไม่เชื่อในสายตาตัวเอง" เขาแอบพูดในใจ
นักวิ่งเริ่มแผ่วฝีเท้าลง และเริ่มบอกกับตัวเองว่า
"นี่คงเป็นอุปสรรคแรก อุปสรรคที่เราไม่เคยข้ามผ่านมาก่อน แต่พอเราเรียนรู้และเลือกที่จะข้ามผ่านมันแทนการปะทะ เวลานี้กลับทำให้เรายังเหลือเรี่ยวแรงมากพอที่จะต่อสู้กับระยะทางข้างหน้าที่ยังเหลืออยู่อีกมากมาย"
ระยะทางข้างหน้าจะอีกไกลแค่ไหน เส้นชัยจะอยู่ห่างไปอีกซักกี่ไมล์
โปรดจงออมแรงไว้ และเดินไปพร้อมกันกับเพื่อนของเราอีกคนที่เราเรียกเขาว่า "ความฝัน"
สิ่ง/กีด/ขวาง บนลู่ชีวิตก็ถูกติดตั้งไว้เพื่อให้เรากระโดดข้าม ยิ่งข้ามมันไปได้มากเท่าไหร่ เราก็ยิ่งเหลือกำลังพอที่จะเดินตามความฝันของเราต่อ
และในวันนี้เราได้ข้ามสิ่งกีดขวางมามากมายแล้วนะเธอ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น