ชาย(ณ)ชาลา
ปิ๊บๆๆๆๆ ปรี๊ดดดดด ...
เสียงที่มักจะได้ยินคุ้นหูในตอนเช้าของทุกๆวัน ประตูเลื่อนไฟฟ้าด้านขวาที่กำลังจะปิดตัวลงประกบกับประตูไฟฟ้าด้านซ้ายของอีกฝั่งหนึ่ง
พร้อมด้วยเสียงนกหวีดจากพี่ยามที่กำลังคอยสังเกตความปลอดภัยของผู้คนบนรถไฟฟ้า หากผู้โดยสารคนใดก้าวล้ำเส้นยาเหลืองผ่าแปดเกินมาแต่นิดเดียว นกหวีดที่ผูกติดกับมือก็พร้อมที่จะส่งเสียงดังลั่นออกมาในบัดดล
ในตู้รถไฟฟ้าโบกี้หนึ่ง ผมกำลังถูกอัดให้ไหลไปตามการเคลื่อนไหวของรถไฟฟ้า ไม่ว่าจะขณะรถเลื่อนออกจากชานชาลา หรือขณะที่พี่คนขับรถรถไฟฟ้ากำลังจะแตะเบรค
การทำตัวให้ลีบแบนที่สุดจะเป็นการประหยัดเนื้อที่ของการโดยสารได้ดีทีเดียว แต่มันก็อาจจะทำให้เกิดอาการเซระหว่างที่รถไฟฟ้ากำลังเทียบท่าชานชาลาได้เหมือนกัน
สถานีถัดไป 'สุรศักดิ์' ประตูรถไฟฟ้าเปิดออกขณะที่ผมกำลังเบี่ยงตัวหลบให้ผู้โดยสารข้างในออกจากตู้อัดปลากระป๋องเคลื่อนที่ตู้นี้
ปิ๊บๆๆๆๆ ปรี๊ดดดดด ....
เสียงสัญญาณหลอนๆดังขึ้นอีกครั้ง ไม่ถึงเพียงเสี้ยวซักนาทีพี่ฝรั่งร่างท้วมคนหนึ่งก็แทรกเข้ามาชนที่ผมอย่างแรง ประตูกำลังถูกปิดอีกครั้งพร้อมกับแรงอัดกระแทกที่เบียดเสียดเข้ามาของพี่ฝรั่ง บังเกิดเป็นความแค้นของคุณป้าที่ยืนอยู่ข้างๆผม คุณป้ามองค้อนพี่ฝรั่งร่างท้วมอย่างปริปากไม่ออก เพราะกลัวถ้าต่อว่าไปมากๆ ฝรั่งอาจจะงงกับภาษาดอกไม้ของบ้านเราก็เป็นได้
พี่ฝรั่งกำลังยืนเหงื่อไหลท้วมตัว สิ่งที่ผมสังเกตเห็นอีกอย่างคืออาการเร่งรีบจนตัวสั่น เหมือนพี่ฝรั่งกำลังติดกิจธุระเร่งด่วนบางอย่าง ซึ่งถ้าเขาพลาดรถไฟฟ้าที่จอดเทียบสถานีแห่งนี้ขบวนนี้ในเวลานี้ไป เขาอาจจะพลาดสิ่งๆหนึ่งไปตลอดกาล
บางเวลา บางสถานที่ หรือบางโอกาส มักจะผ่านเข้ามาหาเราแบบไม่ตั้งตัว การที่ไม่มีหลักยึดที่แน่นอนก็อาจจะทำให้จิตใจที่อ่อนไหวไขว้เขวไปกับสิ่งต่างๆที่เข้ามากดดันอยู่ใกล้ตัว
บางครั้ง "การเลือกทำในสิ่งที่เรารัก" ก็ต้องอาศัยการวางแผนและตัดสินใจที่เด็ดเดี่ยวเพียงพอ การตัดสินใจที่โลเลจะนำพาความท้อแท้ให้กลับมาครอบงำในจิตใจ และมันจะคอยปั่นทอนให้ความกล้าปรับเปลี่ยนเป็นความกลัว จนในที่สุดเราก็จะยังจมอยู่กับสิ่งที่เราไม่ได้รักนั้นต่อไป
เมื่อคนๆหนึ่งได้พบในสิ่งที่ตนรักแล้ว จงกล้าที่จะเดินหน้ามันต่อไป เมื่อถึงจุดหมายปลายทางแล้ว เราจะได้ไม่ต้องนึกย้อนกลับไปตามตัวเองในอดีตว่า ทำไมวันนั้นเราถึงไม่ทำแบบนั้น ทำไมเวลานั้นฉันถึงไม่กระโดดขึ้นรถไฟฟ้าขบวนนั้นไป
ผมพอเข้าใจความรู้สึกและเหตุผลที่พี่ฝรั่งคนนั้นยอมกระโดดขึ้นรถไฟฟ้า แม้เขาจะถูกมองด้วยสายตาอาฆาตจากผู้คนรอบข้างเพียงใด แต่หัวใจเขากลับหล่อหลอมไปด้วยพลังงานของความหวังอันยิ่งใหญ่ จุดหมายปลายทางที่พี่ฝรั่งคงดูสวยงามกว่าตอนนี้ที่พวกเรากำลังจ้องมองเขาด้วยสายตาประหลาดเสียจริงๆ
สถานีถัดไป 'ช่องนนทรี' ผมพยายามแทรกตัวออกมาจากโบกี้ปลากระป๋อง เพื่อออกมาสูดอากาศภายนอกที่ดูรื่นรมย์กว่าในกระป๋องใบนั้นเป็นไหนๆ
ปิ๊บๆๆๆๆ ปรี๊ดดดดด ....
ก่อนที่ประตูไฟฟ้าจะปิดลง เสียงพี่ฝรั่งแทรกดังมาพร้อมกับประตูรถไฟฟ้าที่กำลังจะปิด ผมได้ยินเสียงแผ่วๆนี้ไม่ค่อยชัดนัก แต่พอจะเดาออกว่าพี่ฝรั่งกำลังพูดว่า
"Sorry I cannot miss it ...... "
ผมเริ่มเข้าใจความหมายที่พี่ฝรั่งร่างท้วมคนนี้ทิ้งท้ายก่อนรถไฟฟ้าจะจากไป
ถ้าทุกคนมีความฝันก็ขอให้ Don't miss it , Please do it นะครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น