ล้านนาแค่ขยิบตา #
(ขยิบตาครั้งที่เจ็ด)
"ถ้าความทรงจำจะต้องถูกเก็บไว้ได้แค่เรื่องเดียว
คุณจะเลือกเก็บความทรงจำเรื่องไหน"
คำถามที่ยังคงค้างอยู่ในใจตั้งแต่คืนนั้น
ณ ลานกว้างสุดลูกหูลูกตา
ระหว่างที่รถแล่นผ่านทางลัดสู่ลานธุดงคสถาน ตอนนี้รอบๆสองข้างถนนกำลังเต็มไปด้วยโคมกระดาษประดิษฐ์ที่คนท้องถิ่นต่างสร้างสรรค์ขึ้นมาโดยเฉพาะ บ้างเป็นโคมกระดาษธรรมดาไซด์เล็กไปจนถึงไซด์ใหญ่ บ้างเป็นรูปคิตตี้ โปเกม่อน ราวกับค่ำคืนนี้ร้านต่างๆจะมาประชันขันแข่งกัน หากร้านไหนมีหัวการค้าและความคิดสร้างสรรค์ที่เลอเลิศกว่ากัน เมื่อจบคืนนี้ร้านนั้นจะเป็นผู้กำชัยชนะ
ฝุ่นตลบอบอวลตั้งแต่เริ่มก้าวเท้าลงจากรถ ถนนลูกรังดินสีแดงและต้นไม้ข้างทางชวนให้คิดถึงบรรยากาศชวนตื่นตาตื่นใจที่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้า ผมเดินลัดเลาะตามป้ายบอกทางเพื่อออกสู่ลานกว้าง ก่อนจะก้าวผ่านธรณีประตูเหล็กบานใหญ่ กลุ่มวัยรุ่นกลุ่มใหญ่กำลังซ่องสุมกำลังพลอยู่ที่หน้าประตู พวกเรากำลังเดินผ่านไปช้าพร้อมๆกับสดับรับฟังคำทักทายนั้นว่า
"Welcome to Yee Peng International
หยินดีต้อนฮับสู่งานยี่เป็งสันทรายถวายพุทธบูชา ... เจ้า"
เมื่อธรณีประตูบานใหญ่เปิดออก สายตาของผมกำลังจ้องมองไปยังภาพที่อยู่ตรงเบื้องหน้า แสงอาทิตย์ตอนนี้พอที่จะเก็บความทรงจำบางอย่างเอาไว้ ผมไม่รอช้าที่จะออกสำรวจลานกว้างแห่งนี้
ลานกว้างตอนนี้ถูกจับจองไปด้วยผู้คนหลายเชื้อชาติ หลายอาชีพ และหลายประสบการณ์ ผมเริ่มชะโงกหน้าไปมองที่ศาลาการเปรียญหลังใหญ่ที่มีผู้คนต่างเนืองแน่น
คนหนึ่งคน กล้องหนึ่งตัว ขาตั้งหนึ่งตัว ดูจะเป็นเหมือนสัญลักษณ์ที่สามารถพบเห็นได้ในทุกๆที่ที่ขยิบตา
เครนสีเขียวขนาดใหญ่หน้าลานกว้างกำลังถูกจับจองโดยตากล้องกลุ่มหนึ่ง พวกเขาสองคนกำลังช่วยกันส่งอุปกรณ์พร้อมปีนป่ายขึ้นไปอย่างทุลักทุเล ไม่กี่อึดใจพวกเขาก็กระทำการสำเร็จ ผมพยายามมองหามุมที่พวกเขาคิดจะเก็บภาพในครั้งนี้อย่างไร เมื่อเครนตัวนี้มีขนาดไม่เกินสามเมตรและอยู่ในมุมอับ หรือบางทีอาจจะไม่ใช่แค่การต้องการภาพที่ดีที่สุด แต่พวกเขากำลังบันทึกเทปเปล่าด้วยความทรงจำที่กำลังดำเนินไป ณ ตอนนี้
ตอนนี้ผมพอรู้แล้วว่าผมไม่สามารถเลือกที่จะเก็บความทรงจำเรื่องไหนไว้ได้เพียงเรื่องเดียว หากจะบังคับให้เก็บไว้ได้เพียงเรื่องเดียวจริงๆ ผมจะเตรียมเทปเปล่ามาให้มากเกินพอ เพื่อจะเก็บความทรงจำเหล่านั้นเอาไว้ให้มากที่สุดก็พอ
(ขยิบตาครั้งที่เจ็ด)
"ถ้าความทรงจำจะต้องถูกเก็บไว้ได้แค่เรื่องเดียว
คุณจะเลือกเก็บความทรงจำเรื่องไหน"
คำถามที่ยังคงค้างอยู่ในใจตั้งแต่คืนนั้น
ณ ลานกว้างสุดลูกหูลูกตา
ระหว่างที่รถแล่นผ่านทางลัดสู่ลานธุดงคสถาน ตอนนี้รอบๆสองข้างถนนกำลังเต็มไปด้วยโคมกระดาษประดิษฐ์ที่คนท้องถิ่นต่างสร้างสรรค์ขึ้นมาโดยเฉพาะ บ้างเป็นโคมกระดาษธรรมดาไซด์เล็กไปจนถึงไซด์ใหญ่ บ้างเป็นรูปคิตตี้ โปเกม่อน ราวกับค่ำคืนนี้ร้านต่างๆจะมาประชันขันแข่งกัน หากร้านไหนมีหัวการค้าและความคิดสร้างสรรค์ที่เลอเลิศกว่ากัน เมื่อจบคืนนี้ร้านนั้นจะเป็นผู้กำชัยชนะ
ฝุ่นตลบอบอวลตั้งแต่เริ่มก้าวเท้าลงจากรถ ถนนลูกรังดินสีแดงและต้นไม้ข้างทางชวนให้คิดถึงบรรยากาศชวนตื่นตาตื่นใจที่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้า ผมเดินลัดเลาะตามป้ายบอกทางเพื่อออกสู่ลานกว้าง ก่อนจะก้าวผ่านธรณีประตูเหล็กบานใหญ่ กลุ่มวัยรุ่นกลุ่มใหญ่กำลังซ่องสุมกำลังพลอยู่ที่หน้าประตู พวกเรากำลังเดินผ่านไปช้าพร้อมๆกับสดับรับฟังคำทักทายนั้นว่า
"Welcome to Yee Peng International
หยินดีต้อนฮับสู่งานยี่เป็งสันทรายถวายพุทธบูชา ... เจ้า"
เมื่อธรณีประตูบานใหญ่เปิดออก สายตาของผมกำลังจ้องมองไปยังภาพที่อยู่ตรงเบื้องหน้า แสงอาทิตย์ตอนนี้พอที่จะเก็บความทรงจำบางอย่างเอาไว้ ผมไม่รอช้าที่จะออกสำรวจลานกว้างแห่งนี้
ลานกว้างตอนนี้ถูกจับจองไปด้วยผู้คนหลายเชื้อชาติ หลายอาชีพ และหลายประสบการณ์ ผมเริ่มชะโงกหน้าไปมองที่ศาลาการเปรียญหลังใหญ่ที่มีผู้คนต่างเนืองแน่น
คนหนึ่งคน กล้องหนึ่งตัว ขาตั้งหนึ่งตัว ดูจะเป็นเหมือนสัญลักษณ์ที่สามารถพบเห็นได้ในทุกๆที่ที่ขยิบตา
เครนสีเขียวขนาดใหญ่หน้าลานกว้างกำลังถูกจับจองโดยตากล้องกลุ่มหนึ่ง พวกเขาสองคนกำลังช่วยกันส่งอุปกรณ์พร้อมปีนป่ายขึ้นไปอย่างทุลักทุเล ไม่กี่อึดใจพวกเขาก็กระทำการสำเร็จ ผมพยายามมองหามุมที่พวกเขาคิดจะเก็บภาพในครั้งนี้อย่างไร เมื่อเครนตัวนี้มีขนาดไม่เกินสามเมตรและอยู่ในมุมอับ หรือบางทีอาจจะไม่ใช่แค่การต้องการภาพที่ดีที่สุด แต่พวกเขากำลังบันทึกเทปเปล่าด้วยความทรงจำที่กำลังดำเนินไป ณ ตอนนี้
ตอนนี้ผมพอรู้แล้วว่าผมไม่สามารถเลือกที่จะเก็บความทรงจำเรื่องไหนไว้ได้เพียงเรื่องเดียว หากจะบังคับให้เก็บไว้ได้เพียงเรื่องเดียวจริงๆ ผมจะเตรียมเทปเปล่ามาให้มากเกินพอ เพื่อจะเก็บความทรงจำเหล่านั้นเอาไว้ให้มากที่สุดก็พอ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น