ล้านนาแค่ขยิบตา #
(ขยิบตาครั้งที่สิบสอง)
ณ ทางเชื่อมของกาลเวลา
"นาฬิกาเรือนหนึ่งจะหยุดเดินก็ต่อเมื่อถ่านเริ่มอ่อนกำลัง นั่นคงเป็นเวลาที่เราจะต้องรีบตามหาถ่านมาเปลี่ยนให้ทันท่วงที
เวลายังคงเดินไปข้างหน้าอย่างไม่มีวันหยุดพัก ตราบใดที่เรายังมีลมหายใจ ความฝัน และความหวัง
เวลาที่ล่วงเลยอาจจะทำให้เราเริ่มอ่อนล้าหรือหมดแรง เธอจงหยิบถ่านก้อนใหม่มาเปลี่ยนและออกเดินทางไปพร้อมกัน"
กล้องถ่ายรูปที่ใช้งานมาทั้งวัน ตอนนี้เห็นทีว่ามันจะต้องหลบไปพักในกระเป๋าเสียที ครั้งสุดท้ายก่อนออกจากลำปางผมสังเกตเห็นว่าขีดแบตเตอรี่ในกล้องเริ่มอ่อนกำลังลงมาก
ผมชักไม่แน่ใจว่าสถานีข้างหน้าแบตเตอรี่ก้อนนี้จะยังมีพลังงานเหลือเพียงพอให้เก็บภาพจำนวนมากมายอยู่อีกหรือไม่ ทางที่ดีผมควรปล่อยให้เขานอนหลับไหลไปเสียตั้งแต่เพลานี้ แล้วผมจะปลุกเขาขึ้นอีกทีเมื่อถึงเวลา
บนทางเชื่อมระหว่างจังหวัดลำปางไปถึงจังหวัดตาก พวกเราแวะเติมพลังกันที่ร้านอาหารชื่อดังของจังหวัดตาก เมื่อพลังงานเต็มท้องก็ถึงคราที่เราจะต้องออกเดินทางไปเก็บแสงอาทิตย์อัสดงที่สะพานแขวนสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์กันต่อ
ทางเข้าสถานที่จัดงานถูกปิดตั้งแต่ต้นซอย แต่ก็ไม่ได้ทำให้นักเดินทางอย่างพวกเราต้องอ่อนใจ รถตู้พาเราอ้อมไปลงอีกฝากฝั่งหนึ่ง ซึ่งเราจะต้องใช้ความสามารถในการเดินเท้าเข้าไปในงานกระทงสายไหลประทีป 1000 ดวง ด้วยตัวเอง
ผมถอดใจตั้งแต่รู้ว่าแบตเตอรี่ใกล้หมด อีกทั้งเวลาพลบค่ำแบบนี้การไม่มีขาตั้งกล้องยิ่งทำให้การเก็บภาพยิ่งยากขึ้นไปกันใหญ่ แต่ยังดีที่ผมพกหัวใจกับปากกามามากเกินพอ หากค่ำคืนนี้ผมจะเก็บภาพไว้ไม่ได้หมด อย่างน้อยผมจะบันทึกเรื่องราวทุกอย่างไว้ในเมมโมรี่ของผมเอง
การแสดงแสงสีเสียงเริ่มขึ้นอย่างสวยสดงดงาม ตอนนี้ผมกำลังเกาะขอบสะพานเพื่อเฝ้ามองอยู่ไกลๆ แม้จะอยู่ห่างจากขอบเวทีการแสดงตั้งหนึ่งฝากฝั่ง แต่เลนส์ 18-55 mm ก็ไม่ทำให้ผมต้องผิดหวัง
ผมจ้องด้วยตาที่ไม่ขยิบอยู่นานสองนาน พี่ชายหัวหน้าทริปและพี่สาวรองหัวหน้าก็เริ่มสะกิดหลังทุกคน
และบอกว่าคืนนี้เรามีการเปลี่ยนแผนกันนิดหน่อย
คืนนี้พวกเราจะรอเก็บภาพกระทงสายไหลประทีปตอนสามทุ่ม ซึ่งอาจจะทำให้แผนเดิมของเราถึงกรุงเทพช้ากว่ากำหนดไปอีก 4 ชั่วโมง
ผมชักสีหน้าออกอาการกังวลขณะเดียวกับเริ่มขยับหน้าก้มลงไปมองที่ขีดแบตเตอรี่อีกครั้ง แต่ขีดพลังงานสีดำกลับเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งขีดราวปาฏิหาริย์
พลังงานขีดนี้อาจเกิดไฟฟ้าสถิตที่ค้างอยู่ที่แบตก่อนผมจะปิดกล้องตอนออกจากลำปาง อาจมีใครบางคนจากบนฟ้าต้องการต่อเวลาออกไป หรืออาจเป็นไปได้ว่ามีพลังงานบางอย่างซ่อนเร้นอยู่ภายในกล้องที่ผมถืออยู่
ผมเลิกคิดหาคำตอบทันทีที่นาฬิกาข้อมือบอกเวลาสามทุ่มตรง
กล้องพร้อม แบตพร้อม หัวใจผมก็พร้อม ถึงเวลาก็ต้องเดินหน้าลุยกันอีกซักตั้ง
ก่อนการแข่งขันสุดตระการตาจะเริ่มขึ้น ผมเหลือบตาไปมองที่ขีดแบตเตอรี่อีกครั้งแล้วก็เกิดคำถามตามมา
แล้วร่างกายผมไปชาร์ตพลังงานมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมตอนนี้ช่างดูกระฉับกระเฉงเสียเหลือเกิน
(ขยิบตาครั้งที่สิบสอง)
ณ ทางเชื่อมของกาลเวลา
"นาฬิกาเรือนหนึ่งจะหยุดเดินก็ต่อเมื่อถ่านเริ่มอ่อนกำลัง นั่นคงเป็นเวลาที่เราจะต้องรีบตามหาถ่านมาเปลี่ยนให้ทันท่วงที
เวลายังคงเดินไปข้างหน้าอย่างไม่มีวันหยุดพัก ตราบใดที่เรายังมีลมหายใจ ความฝัน และความหวัง
เวลาที่ล่วงเลยอาจจะทำให้เราเริ่มอ่อนล้าหรือหมดแรง เธอจงหยิบถ่านก้อนใหม่มาเปลี่ยนและออกเดินทางไปพร้อมกัน"
กล้องถ่ายรูปที่ใช้งานมาทั้งวัน ตอนนี้เห็นทีว่ามันจะต้องหลบไปพักในกระเป๋าเสียที ครั้งสุดท้ายก่อนออกจากลำปางผมสังเกตเห็นว่าขีดแบตเตอรี่ในกล้องเริ่มอ่อนกำลังลงมาก
ผมชักไม่แน่ใจว่าสถานีข้างหน้าแบตเตอรี่ก้อนนี้จะยังมีพลังงานเหลือเพียงพอให้เก็บภาพจำนวนมากมายอยู่อีกหรือไม่ ทางที่ดีผมควรปล่อยให้เขานอนหลับไหลไปเสียตั้งแต่เพลานี้ แล้วผมจะปลุกเขาขึ้นอีกทีเมื่อถึงเวลา
บนทางเชื่อมระหว่างจังหวัดลำปางไปถึงจังหวัดตาก พวกเราแวะเติมพลังกันที่ร้านอาหารชื่อดังของจังหวัดตาก เมื่อพลังงานเต็มท้องก็ถึงคราที่เราจะต้องออกเดินทางไปเก็บแสงอาทิตย์อัสดงที่สะพานแขวนสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์กันต่อ
ทางเข้าสถานที่จัดงานถูกปิดตั้งแต่ต้นซอย แต่ก็ไม่ได้ทำให้นักเดินทางอย่างพวกเราต้องอ่อนใจ รถตู้พาเราอ้อมไปลงอีกฝากฝั่งหนึ่ง ซึ่งเราจะต้องใช้ความสามารถในการเดินเท้าเข้าไปในงานกระทงสายไหลประทีป 1000 ดวง ด้วยตัวเอง
ผมถอดใจตั้งแต่รู้ว่าแบตเตอรี่ใกล้หมด อีกทั้งเวลาพลบค่ำแบบนี้การไม่มีขาตั้งกล้องยิ่งทำให้การเก็บภาพยิ่งยากขึ้นไปกันใหญ่ แต่ยังดีที่ผมพกหัวใจกับปากกามามากเกินพอ หากค่ำคืนนี้ผมจะเก็บภาพไว้ไม่ได้หมด อย่างน้อยผมจะบันทึกเรื่องราวทุกอย่างไว้ในเมมโมรี่ของผมเอง
การแสดงแสงสีเสียงเริ่มขึ้นอย่างสวยสดงดงาม ตอนนี้ผมกำลังเกาะขอบสะพานเพื่อเฝ้ามองอยู่ไกลๆ แม้จะอยู่ห่างจากขอบเวทีการแสดงตั้งหนึ่งฝากฝั่ง แต่เลนส์ 18-55 mm ก็ไม่ทำให้ผมต้องผิดหวัง
ผมจ้องด้วยตาที่ไม่ขยิบอยู่นานสองนาน พี่ชายหัวหน้าทริปและพี่สาวรองหัวหน้าก็เริ่มสะกิดหลังทุกคน
และบอกว่าคืนนี้เรามีการเปลี่ยนแผนกันนิดหน่อย
คืนนี้พวกเราจะรอเก็บภาพกระทงสายไหลประทีปตอนสามทุ่ม ซึ่งอาจจะทำให้แผนเดิมของเราถึงกรุงเทพช้ากว่ากำหนดไปอีก 4 ชั่วโมง
ผมชักสีหน้าออกอาการกังวลขณะเดียวกับเริ่มขยับหน้าก้มลงไปมองที่ขีดแบตเตอรี่อีกครั้ง แต่ขีดพลังงานสีดำกลับเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งขีดราวปาฏิหาริย์
พลังงานขีดนี้อาจเกิดไฟฟ้าสถิตที่ค้างอยู่ที่แบตก่อนผมจะปิดกล้องตอนออกจากลำปาง อาจมีใครบางคนจากบนฟ้าต้องการต่อเวลาออกไป หรืออาจเป็นไปได้ว่ามีพลังงานบางอย่างซ่อนเร้นอยู่ภายในกล้องที่ผมถืออยู่
ผมเลิกคิดหาคำตอบทันทีที่นาฬิกาข้อมือบอกเวลาสามทุ่มตรง
กล้องพร้อม แบตพร้อม หัวใจผมก็พร้อม ถึงเวลาก็ต้องเดินหน้าลุยกันอีกซักตั้ง
ก่อนการแข่งขันสุดตระการตาจะเริ่มขึ้น ผมเหลือบตาไปมองที่ขีดแบตเตอรี่อีกครั้งแล้วก็เกิดคำถามตามมา
แล้วร่างกายผมไปชาร์ตพลังงานมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมตอนนี้ช่างดูกระฉับกระเฉงเสียเหลือเกิน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น