ความสุขลำดับที่ "5"
"สี่โมงเย็น"
เป็นเวลาของการปลดปล่อยเจ้าตัวน้อยให้กลับสู่อ้อมอกมารดาผู้เป็นที่รัก ทั้งคู่เดินจูงมือไปตามถนนที่ทอดยาว เพื่อเดินทางกลับไปยังบ้านอันแสนอบอุ่น
"ห้าโมงเย็น"
เมื่อชายร่างท้วมปลีกตัวจากการทำงานที่ตรากตรำหนักมาทั้งวัน รีบกลับบ้านมาพบหญิงอันเป็นที่รักของเขาและเจ้าตัวน้อยที่ยังดูอ่อนเยาว์
"หกโมงเย็น"
ชาย หญิง และเด็กน้อย ร่วมรับประทานอาหารเคียงข้างกัน ฝีมือการทำอาหารของหญิงสาวยังคงไม่เปลี่ยนแปลง แม้กับข้าวจะไม่ค่อยแตกต่างไปจากทุกวันนัก แต่หญิงสาวก็ไม่ลืมที่จะทำกุ้งชุบแป้งทอดของโปรดของเจ้าตัวน้อยอยู่เสมอ
ภาพสมัยอดีตที่ผมยังพอนึกได้อยู่ลางเลือน
แต่ภาพเหล่านั้นกลับดูเหมือนจะเลือนลางเต็มทีในยุคสมัยที่อำนาจของวัตถุเป็นใหญ่ ยุคสมัยของการแข่งขันได้ปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตของคนในนิยายรักทั้งสามวัยให้แยกออกจากกันอย่างสิ้นเชิง
เจ้าตัวน้อยถูกส่งไปอยู่โรงเรียนพิเศษหลังเลิกเรียน
หญิงสาวเคลียร์งานอยู่ในออฟฟิศขณะที่แสงอาทิตย์กำลังมอดดับลง
ชายหนุ่มกำลังติดงานสังสรรค์กับลูกค้าอยู่ที่ต่างจังหวัด
"ครอบครัว" คำที่เคยเปล่งเสียงออกมาผ่านซี่ฟันได้อย่างแม่นยำในตอนเด็กๆ บัดนี้การออกเสียงคำนี้กำลังถูกกีดขวางด้วยคราบพลัคที่มีชื่อว่า "อนาคต"
อนาคตคือความไม่แน่นอน คำนิยามที่เคยได้ยินอยู่เสมอในโฆษณาประกันชีวิต เมื่อมีความไม่แน่นอนเกิดขึ้น อนาคตก็ยิ่งต้องถูกสร้างจากการใช้เวลาในปัจจุบันให้มากยิ่งขึ้น
คำว่า ค ร อ บ ค รั ว วันนี้กำลังถูกสะกดให้ห่างกันขึ้นกว่าเดิม
ราวกับว่าเรากำลังใช้เวลาของปัจจุบันไปแลกกับเวลาในอนาคต จนลืมความสวยงามที่กำลังเกิดขึ้น ณ ปัจจุบันขณะ
(2)
ในหนึ่งวันเข็มยาวของนาฬิกาสามารถหมุนชนเลข 12 ได้ถึง 2 ครั้ง
0.5 รอบ ถูกใช้หมดไปกับการนอนพักผ่อน
1.5 รอบ ถูกใช้หมดไปกับการสร้างอนาคต
เวลาที่ยังเหลือ 0.5 รอบเป็นเวลาที่ทุกๆคนกำลังอยู่กับ "ปัจจุบัน"
ปัจจุบันที่ดำเนินไปอย่างช้าๆ พร้อมคนที่เรารัก
ปัจจุบันที่มีตัวละคร พ่อ แม่ ลูก ประกอบกันเป็นเนื้อเรื่อง
แม้เวลาที่เหลือนี้จะมีไม่ถึงหนึ่งรอบ แต่นี่ก็เป็นเวลาที่ดีที่สุดที่เราบรรจงเขียนคำว่า "ครอบครัว" ให้สวยงามขึ้นมาใหม่อีกครั้ง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น