Beyond Creative, We do

FB:Theexplorerphotographer

test

วันเสาร์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2557

จุดไฟ,ความฝัน ปี 2014


::: จุดไฟ,ความฝัน ปี 2014 :::


ณ งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ 2014





(1)

งานสัปดาห์หนังสือปีนี้ไม่ต่างจากปีก่อน 

หนอนหนังสือจากทั่วสารทิศยังคงคลืบคลาน
ผ่านอุโมงค์ใต้ดินศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ 
ประตูซุ้มที่ทำด้วยพลาสติกใสเป็นด่านแรกที่คอยต้อนรับขับสู้พวกเราได้เป็นอย่างดี 
เหล่าบรรดาหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่นยังคงตั้งบูธติดประตูทางเข้าต้อนรับเราอย่างที่เคยเป็น

ผมนัดเพื่อนคนเดิมที่เคยไปงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติเมื่อปีที่แล้ว

ไว้ที่โซนหนังสือห้องแพนนารี่ฮอลโซนเอ

บทสนทนาแรกที่ถูกป้อนเข้าหูทันทีหลังจากเดินไปเจอกันตรงจุดที่นัดไว้

คือเรื่องนิทานอาหรับที่ซื้อไปเมื่อปีก่อน

นิทานอาหรับราตรีทั้ง 4 เล่มของเพื่อนผมยังคงนอนแช่อยู่บนชั้นหนังสือเกือบแรมปี 

ด้วยความหนาของหนังสือและรายละเอียดการดำเนินเรื่องที่ซับซ้อนซ่อนเงื่อน 
นี่อาจจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้นิทานอาหรับราตรีของเพื่อนผม
ยังคงถูกตั้งไว้รอการเปิดอ่านขึ้นมาอีกครั้ง

ผมไม่รอช้าที่จะบอกมันว่าวันนี้ที่งานมีเล่ม 5 และเล่ม 6 ออกแล้วนะ !!

แต่ดูการตอบรับจากสีหน้าของเพื่อนในวันนี้ 

มันคงมีแผนที่จะกลับมาซื้อปีหน้าซะมากกว่า

(2)

คืนวันศุกร์ก่อนวันหยุดยาวดูจะมีอิทธิพลต่อแรงดึงดูดผู้คน

คล้ายดวงจันทร์ในข้างขึ้นข้างแรม 
จึงทำให้วันนี้หนอนหนังสือดูบางตากว่าที่เคยเป็น 
อีกทั้งสมัยนี้หนังสือก็หาซื้อง่ายกว่าแต่ก่อนเยอะ 
แค่มีคอมพิวเตอร์กับบัตรเครดิต 
ไม่เกิน 2 วันหนังสือที่สั่งโดยการคลิ๊กเมาส์ก็จะมาเกยตื้นอยู่ที่หน้าบ้าน
พร้อมกับรอยยิ้มของคุณลุงบุรุษไปรษณีย์

การได้มาสัมผัสกับความตั้งใจจากนักเขียนตัวจริงในงาน

คือเหตุผลหนึ่งที่ผมตัดสินใจย่างเท้าเข้ามา ณ สถานที่แห่งนี้

บูธแรกที่ผมเดินเข้าไปเยี่ยมเยือนอยู่ติดหัวมุมทางออกโซนเอ 

คงไม่มีอะไรมากไปกว่าการเปิดหนังสือเพื่อเชคดูสภาพรอยขีดข่วนที่ซ่อนอยู่ภายในเล่ม 
เนื่องจากผมเตรียมรายการหนังสือที่จะมาซื้อไว้ตั้งแต่วันก่อน

แต่จนแล้วจนเล่าก็จำยอมต้องจ่ายเงินเพิ่มเพื่อซื้อหนังสือที่อยู่เหนือแผนการ 

หนังสือรวมบทความคัดสรร "ก่อนหน้านี้" ของปราบดา หยุ่น 
ทั้งๆที่หนังสือเล่มนี้ถูกเคลือบด้วยพลาสติกกั้นการเปิดอ่าน 
ในฐานะผู้บริโภคย่อมต้องให้ความสำคัญกับการลองก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ 
แต่สำหรับผมหนังสือเล่มนี้มีแรงดึงดูดบางอย่าง 
บางประโยคที่ซ่อนอยู่ที่ปกหลังชวนให้ผมต้องเพิ่มหนังสือเล่มนี้เข้าไปใน Wish List 
ที่วางแผนไว้ก่อนหน้าอย่างเร็วพลัน

แม้วันนี้พี่ปราบดาจะไม่ได้มาปรากฏตัวอยู่ในงาน 

แต่ผมว่าเราอาจจะได้เจอกันเร็วๆนี้แน่นอน

(3)

ถัดออกมาอีกโซนหนึ่งซึ่งถือว่าเป็นสำนักพิมพ์น้องใหม่ล่าสุด 

แต่กลับมีผู้อ่านต่อแถวขอรายเซ็นต์กันมากที่สุด 
บูธ KOOB ตั้งอยู่เกาะกลางระหว่างทางเชื่อมห้องแพนนารี่ฮอลสู่เวทีเสวนา

ผมไม่แปลกใจที่วันนี้เด็กวัยรุ่นหน้าใสกริ๊งจำนวนมาก

มาชุมนุมกันโดยมิได้นัดหมายอยู่ที่หน้าบูธ KOOB

นักเขียนคู่รักทั้งสองกำลังบรรจงแจกลายเซ็นต์กันอย่างขะมักเขม้น 

นักอ่านวัยรุ่นยังคงต่อแถวยาวพับทบซ้อนแล้วซ้อนเล่าจนกลายเป็นหางว่าว 
ยังดีที่หางว่าวตัวนี้ไม่ได้ไปบดบังบูธข้างๆ

ผมได้แต่แอบอิจฉาวิธีการเดินไปหาความสุขที่ของนักเขียนคู่รักทั้งสองคนนี้ 

และผมก็ไม่พลาดที่จะซื้อหนังสือเล่มใหม่ของพวกเขาตามแผนที่วางไว้

(4)

จริงแล้วการมาเยี่ยมเยือนงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งนี้ 

ผมตั้งใจจะมาหาหนังสือที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางของนักเขียนชื่อดังต่างๆ 
เพื่อที่จะนำแนวคิดดีๆไปผนวกรวมกับความคิดของผม
ที่กำลังเรียงตัวอยู่ในหัวหลังจากที่กลับมาจากประเทศพม่าได้ไม่นาน

แม้ตอนนี้หน้าปกและชื่อหนังสือจะก่อตัวเป็นร่างได้แล้ว 

แต่ที่สำคัญคือเนื้อหามากมายที่ยังขมวดเป็นปมอยู่ในความทรงจำที่ผ่านมา

หนังสือเล่มแรกในแผนที่ตั้งใจจะมาซื้อกลับกลายเป็นหนังสือเล่มสุดท้าย

ที่ผมและเพื่อนกำลังจะต้องเดินกลับไปที่ห้องแพนนารี่อีกครั้ง

ระหว่างทางเดินมีหนังสือมากมายถูกตั้งเรียงรายตามบูธต่างๆ 

ดูแล้วก็ไม่ต่างกลับความรู้มากมายที่เราต่างผ่านประสบการณ์กันมาอย่างโชกโชน 
บางคนเลือกที่จะถ่ายทอดมันออกมาเป็นบทความ หนังสือ หรือภาพถ่าย 
หนังสือที่เราเลือกหยิบขึ้นมาอ่านกำลังแสดงความต้องการของตัวเราได้ดีที่สุด

บางทีการค้นหาตัวเองอาจจะไม่ยากอย่างที่คิด

ถ้าเราเลือกอ่านหนังสือแบบไหน เราก็จะเป็นเช่นนั้นแล

(5)

ไม่นานนักถึงบูธเป้าหมายสุดท้ายของเรา 

ผมไม่รอช้าที่จะหยิบหนังสือเล่มโปรดเล่มนั้นขึ้นมาเชคดูรอยขีดข่วนอย่างช้าๆอีกครั้ง

ดูเหมือนจะโชคดีกว่าที่คาด

ผมค่อยๆเงยหน้าเพื่อจ้องมองนักเขียนและบรรณาธิการนิตยสาร a day 

ที่กำลังส่งยิ้มตาหยีอยู่ข้างหน้า

ทันใดนั้นภาพนิตยสาร a day ปกเดือนที่แล้วก็ลอยเข้ามาอยู่ในหัว 

ปกหนังสือสีดำเคล้าแก้มสีแดงของเจ้าหมีคุมะมง
ยังคงสร้างความน่าประหลาดใจให้กับผมไม่ลางเลือน

ผมได้แต่ขอบคุณการนำเสนอคอลัมน์ดีๆผ่านนิตยสารเล่มนั้น 

ก่อนที่ทั้งสองมือจะยื่นหนังสือ "ทางรถไฟสายดาวตก" ให้พี่ก้อง ทรงกลด
เขียนข้อความบางอย่างลงไป

ผมรับหนังสือกลับมาอย่างเร็วพลัน

เพื่อที่จะนำไปชำระค่าลิขสิทธิ์อย่างถูกต้องตามกฏหมาย 
โดยไม่ได้เร่งรีบที่จะเปิดดูข้อความที่พี่ก้องฝากไว้ในหนังสือเล่มนั้น

ก่อนที่จะเดินจากกลับไปยังอุโมงค์ใต้ดินศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ 

ผมเริ่มครุ่นคิดหาความหมายของหนังสือที่ผมเลือกหามาในวันนี้

ปกหน้าไม่ต้องสวยงามอย่างที่คิด 

คำนำไม่จำเป็นต้องจ้างให้ใครมาเขียน 
ความหมายที่แท้จริงของหนังสือถูกบรรจุอยู่ในตัวอักษรที่นักเขียนคนหนึ่งได้จรดปากกาลงไป

ผมพลิกหนังสือเพื่อสำรวจรอยขีดข่วนอีกครั้ง

ผมเพิ่งเข้าใจความหมายในนั้น

อย่างชัดเจน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

มิงกะลาบา ความหวังใหม่ใต้เปลือกตา

มิงกะลาบา ความหวังใหม่ใต้เปลือกตา

ล้านนาแค่ขยิบตา

ล้านนาแค่ขยิบตา
บันทึกการเดินทางจำนวนสิบสี่ตอนที่จะเปลี่ยนมุมมองทุกการเดินทางให้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

Ads

Most Popular