::: เมษาหน้าโง่ :::
(1)
ฉันท้อง !!!!
สเตตัสของหญิงสาวคนหนึ่งกำลังเบ่งตัวโตโชว์หลากลางหน้าเฟสบุค
นิ้วหัวแม่มือแบนๆของผมไม่รอช้าที่จะสไลด์จอ
ค้นหาข้อความเก่าๆที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้
เหมือนว่าผมจะพลาดเหตุการณ์สำคัญในไทม์ไลน์ของเธอ
หน้าจอแคบๆเลื่อนมาถึงจนสุดขอบ
ความสับสนเริ่มวนเวียนอยู่ในหัวใจ
พร้อมกับคำถามมากมายที่ก่อตัวขึ้นท่ามกลางความสงสัย
เธอไปแต่งกับใคร ตอนไหน วันไหน คบกันเมื่อไร ไป
@#$% กันอีท่าไหน แล้วทำไมถึงท้อง
ไม่นานคดีปริศนานี้ก็ถูกคลี่คลายด้วยสเตตัสจากเพื่อนสนิทของเธอ
พร้อมทั้งฝากคำคอมเม้นท์ใต้ภาพนั้นว่า "เมษาหน้าโง่"
ราวกับโดนหมัดฮุคเข้าที่ท้องน้อยอย่างจัง
ยังดีที่นิ้วแบนๆทั้งสิบไม่เผลอไปฝากคอมเม้นท์ใดๆข้างใต้ภาพเสียก่อน
ไม่งั้นอาจจะถูกหาว่าหน้าโง่มากกว่าน่ารักก็เป็นได้
(2)
ผมเพิ่งเดินทางกลับมาจากประเทศพม่าได้ไม่ถึงอาทิตย์
ภาพปกหนังสือและชื่อหนังสือที่ตั้งใจจะเอาไปแสดง
ในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติปลายปีนี้ก็ค่อยๆโผล่ออกมาเป็นรูปเป็นร่างชัดเจนขึ้น
ตั้งแต่วันที่ต้นฉบับ "ล้านนาแค่ขยิบตา"
บันทึกการเดินทางฉบับแรกถูกส่งไปนอนแอ้งแม้งอยู่ในซอกหลืบของสำนักพิมพ์ชื่อดัง
ก็ยิ่งทำให้ผมต้องรีบปั่นต้นฉบับชุดใหม่ให้น่าตื่นเต้น
และน่าติดตามมากกว่าเก่าเพื่อเอามาเป็นแต้มต่อ
แต่จนแล้วจนเล่าต้นฉบับก็ยังไม่คืบหน้าไปสักเท่าไร
บทนำยังคงถูกเก็บไว้ในเมมโมรี่การ์ดที่นอนแช่อยู่ในความทรงจำ
เทียบกับรูปถ่ายมากมายที่พร้อมโพสลงในหน้าเฟสบุคอย่างสม่ำเสมอ
ยังดูง่ายเสียกว่าการจรดปากกาเขียนบันทึกการเดินทางสักเรื่อง
แต่พอยิ่งใกล้กำหนดเวลาส่งงานเมื่อไร
ความสามารถพิเศษของผมมักจะถูกปลดปล่อยออกมาในบัดดล
"ล้านนาแค่ขยิบตา"
บันทึกการเดินทางฉบับแรกยังคงความน่าตื่นตาตื่นใจให้กับผมเสมอ
การใช้ชีวิตอยู่กับคนแปลกหน้ากว่าสิบชีวิตเพียง 2 วัน 3 คืน
กลับทำให้การมองโลกของผมกว้างขึ้น
ทว่าบนโลกใบนี้ไม่ได้มีแค่วัสดุที่เป็นอิฐหรือปูน
โลกใบนี้ยังมีวัตถุดิบที่มีชีวิตอีกมากมายอาศัยอยู่ร่วมกัน
และพร้อมที่จะก่อเกิดเป็นเรื่องราวให้เราจดจำ
การออกเดินทางไปประเทศพม่าในครั้งนี้
ก็ยิ่งทำให้โลกใบเดิมกว้างขึ้นกว่าเก่าอีกหลายเท่าตัว
ศรัทธาเป็นความหวังอันสูงสุดที่เราพบเห็นได้ทุกวัน
ตัวหนังสือที่ถูกจรดลงในสมุดบันทึกยังคงให้ความหมายดีๆทุกครั้งที่เปิดออกมาอ่าน
ภาพจากล้องถ่ายรูปยังคอยเตือนความทรงจำที่ตรงจุดนั้นไว้เสมอ
บนโลกใบเดิมยังคงมีผู้คนมากมายส่งต่อความหวังให้แก่กันเสมอ
แม้ความหวังนั้นมันจะอยู่ใกล้แค่เปลือกตา
เมษาหน้าโง่ !!!
ไม่รู้ว่าถ้ามีใครอ่านมาจนถึงประโยคนี้แล้วจะเซอร์ไพรส์กับสิ่งที่ผมโกหกหรือไม่
ทว่าวันนี้เป็นวันที่ใครๆสามารถโกหกพกลมกันได้อย่างเสรี
หนึ่งวันที่เราต่างโกหกโดยไม่มีใครโกรธกัน แล้วเราจะโกหกกันต่อไปจนหมดเวลา
แต่ ! ผมชักเริ่มเอะใจเมื่อเงยหน้าไปมองที่นาฬิกาที่ถูกแขวนอยู่บนผนัง
เข็มสั้นและเข็มยาวยังคงตั้งตรงที่เวลาเที่ยงคืน
ในขณะที่ตัวเลขดิจิตอลตัวแรกบนโทรศัพท์มือถือเปลี่ยนไปเป็นเลขหนึ่ง
เห็นทีว่าผมจะละเมิดกฏของเมษาหน้าโง่ไปเกือบหนึ่งชั่วโมงโดยไม่รู้ตัว
ถ้าอย่างนั้นสิ่งที่ผมเล่ามาก็ต้องเป็นเรื่องจริงละสิทีนี้ !!!
แล้วพบกันที่งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ
ตามสัญญา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น