สถาปัตยกรรมชีวิต * * * * * * * * * * ภายในวัดถ้ำเสือที่โอ่อ่าตระการตา ผมกลับเหลือบไปเห็นจานสีและพู่กันที่ถูกตั้งทิ้งไว้ราวกับว่าใครบางคนจงใจตั้งมันไว้ตรงนั้น ผมเริ่มสำรวจเพดานและเสารอบๆข้าง เพื่อค้นหาจุดที่จิตรกรคนนี้ได้ทิ้งงานที่ยังไม่เรียบร้อยเอาไว้ ทว่าผมกลับไม่พบเจอจุดด่างพร้อยจุดนั้น จานสีเปรอะเปลื้อนถูกทิ้งไว้แบบไม่ใยดี ปลายพู่กันที่เริ่มแข็งจากสารเคมีที่ระเหยไปในอากาศ อากาศภายนอกที่ค่อนข้างหนาวกำลังทำให้อุปกรณ์ของศิลปินคนนี้เสื่อมสภาพลง แต่ทว่าความสวยงามของสิ่งก่อสร้างที่เขาเพิ่งแต่งแต้มมันเสร็จกลับคงทน จิตรกรรมที่รอคอยให้ใครบางคนมาพบเจอและชื่มชนผลงานอันน่าอัศจรรย์ผมเริ่มกลับมามองสถาปัตยกรรมชิ้นใหญ่โตที่เรียกว่า "ชีวิต" หากเราต่างมีสิทธิ์ที่จะใช้พู่กันด้ามน้อยใหญ่แต่งเติมสีสันให้แก่กันและกันเสมอ ไม่ว่าสีของฉัน สีของเธอ หรือว่าสีของเรา ต่างต้องผสมกลมกลืนกันเมื่อถึงวันที่เราได้พบเจอ แท้จริงแล้ว เราอาจเป็นส่วนหนึ่งที่เข้ามาเติมเต็มความหมายของชีวิตให้แก่กันบางทีชีวิตเราอาจถูกย้อมให้มืดมิดไปด้วยสีที่ดำสนิท แต่เมื่อไรที่เราร่วมแบ่งปันเรื่องราวทุกข์-สุขในชีวิต สีที่เคยดำสนิทจะค่อยๆเจือจางหายไป ทฤษฎีการผสมสารให้มีสีสัน อาจเหมือนการแชร์และรับฟังความรู้สึกนึกคิดของเพื่อนสนิทคนที่จะไม่มีวันหลบหายไปจากกัน แล้วเราจะกลับมาแต่งแต้มต่อเติมสีสันให้ทุกวันกลายเป็นสีของเรา Theexplorerphotographer
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น