THE VOICE IMPRESSION : ไสว่าสิบ่ถิ่มกัน

THE VOICE IMPRESSION

ไสว่าสิบ่ถิ่มกัน

* * * * * * * * * *

(1)
โสตประสาทของคนเราอาจรับรู้คลื่นเสียงในช่วงความถี่ที่แตกต่างกัน ความไพเราะของเสียงเพลงหนึ่งๆ จึงไม่ได้ขึ้นอยู่กับความทุ้มต่ำของเส้นบันไดเสียงที่ทอดยาวเสมอไป บางเส้นเสียงถูกไล่เรียงความอ่อนช้อยในขณะที่แอบซ่อนถ้อยความหมายที่ทรงพลัง เราอาจเคยได้ยินบทเพลงที่สอดประสานเรื่องราวบนความสัมพันธ์ของกันและกันอย่างไม่รู้ตัว

การฟังกับการได้ยินดูคล้ายจะเกิดขึ้นผ่านตัวกลางที่มีชื่อว่าอากาศ เมื่อคลื่นเสียงตกกระทบแนวระนาบ ความกังวาลจึงสรรสร้างให้โสตประสาทโอบรับสัญญาณเสียงที่ถูกส่งออกมา แล้วจึงค่อยๆแปลงการได้ยินเป็นความหมาย การรับฟังจึงเกิดขึ้น แม้ไม่ว่าแหล่งกำเนิดเสียงนั้นจะอยู่ห่างไกลสักเพียงใด เมื่อไรก็ตามที่คลื่นตกกระทบและเคลื่อนที่ผ่านเข้าไปยังหูชั้นใน ความสนใจ-ใส่ใจ-ห่วงใย จะเป็นผลลัพธ์ที่เราแสดงออกมาให้แก่กัน

ความหมายของสารอาจแปลเปลี่ยนไป เมื่อเราตีความหมายที่ตัวเองเข้าใจออกมาแบบผิดๆ ความคิดและประสบการณ์แย่ๆอาจทำให้ตัวรับสัญญาณของเราถูกปิด จนเข้าใจความหมายดีๆนั้นผิดเพี้ยนไป ความเข้าใจสารที่คลาดเคลื่อนอาจทำให้เราจำต้องห่างกันไปอีกไกลแสนไกล บ่อยครั้งที่การยื่นข้อเสนอดีๆที่เราตั้งใจและมั่นใจ อาจไม่เป็นที่ถูกใจของคนบางคน เพียงเพราะเขาเองนั้นไม่อยากจะได้ยิน

(2)
บทเพลงบรรเลงเสียงสูงต่ำ บางครั้งก็ทำให้โสตประสาทอันอ่อนไหวได้เคลิบเคลิ้ม คงคล้ายกับเวลาที่เราได้ปล่อยตัวปล่อยใจ ให้ไหลไปกับเส้นบันไดเสียงของบทเพลงซิมโฟนี่หมายเลข 9 ความลื่นไหลของตัวโน้ตทำให้หัวใจของเราเอนอ่อนไปตามประสบการณ์ที่ต่างที่ต่างเวลา บางครั้งบทเพลงก็ปลุกใจให้เราออกไปค้นหาสิ่งแปลกใหม่ที่ซ่อนอยูในตัวเอง

ความรู้สึกดีๆและทำนองอันไพเราะยังคงแอบซุกซ่อนอยู่ในบทเพลงที่มีความหมาย หลากหลายบทบรรเลงจึงถูกปรุงแต่งขึ้นมา เพื่อให้ง่ายต่อการซึมซาบความรู้สึกร่วมที่มีต่อกันได้อย่างมากมาย บางครั้งความประทับใจแรกอาจเกิดขึ้นจากน้ำเสียงอันนุ่มลึก ที่กำลังกระซิบอยู่ข้างๆหูเพื่อให้เราได้รู้สึกผ่อนคลาย ในวันที่ค้นพบความหมายอันสุดซึ้ง เราอาจหลงรักใครบางคนจากสัญญาณเสียง แม้ต้นกำเนิดเสียงตรงนั้นจะยังไม่ตอบรับก็ตาม

เราอาจชอบฟังเพลงสากลทั้งๆที่ไม่รู้ความหมาย เพียงเพราะเสียงอันนุ่มลึก ได้ทำให้เราได้รู้สึกสบายตัวเมื่อวันที่อ่อนล้าจากอุปสรรคอันหนักหน่วง เพลงบางเพลงแค่ได้ยินก็ทำให้เรารู้สึกคลายความกังวลและความกลัว ไม่แปลกเลยถ้าเราจะมีบทเพลงประจำตัวไว้คอยให้กำลังใจในยามที่อ่อนแอ

บทเพลงคู่ใจมักถูกบรรจุอยู่ในเพลย์ลิสต์ที่ถูกเล่นบ่อยจนเทปยาน แม้ความหมายเดิมๆจะถูกเล่นซ้ำๆสักเท่าไร แต่มันกลับทำให้เราได้ค้นพบความรู้สึกใหม่ๆได้เสมอ บ่อยครั้งที่ชีวิตจริงก็ไม่ได้เป็นไปตามอย่างที่บทเพลงได้กล่อมเกลาให้เราเลือกเดิน การกรอเทปเพื่อกลับมาฟังที่จุดตั้งต้นของความรู้สึกเดิมๆ อาจทำให้เราค้นพบความหมายที่ต่างไป

(3)
ความประทับใจในบทเพลงที่ไม่รู้จักอาจเกิดขึ้นโดยที่ไม่รู้ตัว เมื่อผมเอาแต่กดรีเพลย์ดูการขับร้องของผู้หญิงคนหนึ่งอย่างไม่คิดจะละสายตาไปไหน การขับร้องที่ดูมีเสน่ห์ดึงดูดให้ผู้ชมต้องจดจำจนขึ้นใจ สัญญาณเสียงอันน่าหลงใหลอาจเดินทางผ่านเข้าหูชั้นในของผมไปแล้วอย่างไม่ทันตั้งตัว

"ไสว่าสิบ่ถิ่มกัน" ที่ถูกขับร้องคัฟเวอร์โดยไข่มุกในรายการเดอะวอยส์ในวันก่อนอาจเป็นบทเพลงที่เราไม่เคยรู้จัก ความหมายของคำต่อคำที่เมื่อได้ฟังแล้ว คงไม่จำเป็นที่จะต้องไปค้นหาคำแปลจากสถานที่ไหนๆ ความรู้สึกที่ถูกถ่ายทอดอาจแปลเปลี่ยนเป็นความหมายดีๆไปแล้วตั้งแต่แรกเริ่มเมื่อเราเกิดความประทับใจ เราอาจเป็นที่ถูกใจของใครบางคนจากเส้นเสียงที่ถูกส่งออกมา

เพลงนั้นฟังดูดีเมื่อผู้ขับร้องคนนี้สื่อสารได้ตรงกับใจที่เราเคยรู้สึก แม้จะยังไม่เข้าใจความหมายที่ซ่อนอยู่ลึกๆว่าบทเพลงนั้นจะสื่อสารว่าเศร้าหรือสุขสักแค่ไหน แค่เพียงแววตา สุ่มเสียง และอารมณ์ที่ถูกถ่ายทอดออกมาจากฟิลลิ่งที่อยู่ข้างใน เราอาจเรียนรู้วิธีตกหลุมรักใครสักคนแบบไม่รู้ตัวทั้งๆที่ยังไม่รู้จักกันดี

โสตประสาทอาจมีอำนาจมากกว่าที่คิด หากมันสามารถแยกแยะความรู้สึกนึกคิดของผู้ส่งสารได้อย่างชำนิชำนาญโดยไม่มีข้อต้องสงสัย เสียงใส่อารมณ์ เสียงปนความรัก เสียงที่เคยรู้จัก หรือเสียงที่อยากทักทาย ทุกเสียงล้วนถูกแปลงเป็นความหมายในทุกครั้งที่เราต่างได้ยิน

เราอาจเคยตกหลุมรักคนๆเดิมโดยไม่มีเหตุผล อาจเป็นเพราะความประทับใจแรกได้ก่อร่างสร้างตัวตนจนเกิดเป็นรากฐานให้จดจำและไม่จางหาย สุ่มเสียงที่อ่อนโยนอาจเป็นหนึ่งในตัวแปรที่ทำให้ความอ่อนไหวเริ่มละลาย หากนั่นหมายความว่าเราจำต้องได้ยินสุ่มเสียงข้างในจิตใจที่ถูกยืนยันแล้วเช่นกัน

Theexplorerphotographer