Beyond Creative, We do

FB:Theexplorerphotographer

test

วันพฤหัสบดีที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

ชายหนุ่มผู้ทำให้ดอกไม้บาน


ชายหนุ่มผู้ทำให้ดอกไม้บาน

* * * * * * * * * *.


(1)
ต้นไม้มิอาจสูงใหญ่ได้โดยปราศจาก การรดน้ำ พรวนดิน ใส่ปุ๋ย หรือการดูแลเอาใจใส่กันเป็นอย่างดี หากหนึ่งในช่วงชีวิตของต้นไม้นั้นมักจะมีวงจรการผลิดอกออกผลอันงดงามให้เราได้ชื่นชม บางครั้งการมองดูต้นไม้ที่เราเอาใจใส่ประคบประหงมมาเป็นแรมปีเติบโตขึ้นอย่างแข็งแรง ก็กลายเป็นความสุขเล็กๆที่ทำให้สิ่งละอันพันละน้อยในหัวใจของเราเติบใหญ่ขึ้นตามทั

"หัดลองออกไปมองสิ่งที่อยู่รอบตัวเสียบ้าง แล้วค่อยๆค้นหาวิธีสร้างสรรค์ ที่จะสามารถรักษาต้นไม้ของเราให้ยืนต้นได้อีกนาน" เราไม่ได้หวังว่าต้นไม้จะยืนต้นแค่วันนี้หรือพรุ่งนี้ หากมันจะต้องผลิดอกออกผลให้เราเก็บกินไปอีกนาน ในยามที่ขัดสนเราจะไม่ทุกข์ทนหากหมั่นเสาะหาวิธีทะนุถนอมรากไม้ให้ยังดูดซึมแร่ธาตุเพื่อยืนต้นตั้งตนได้ต่อไป

หากแท้จริงต้นไม้ที่เปรียบเปรยเอาไว้ก็คงไม่ได้ต่างไปจาก "หัวใจ" ในบางครั้งมันอาจบอบช้ำจากการกระทบกระทั่ง หรือไม่มันก็อาจอ่อนแรงลงเนื่องจากเจ้าของไม่เคยหันกลับไปใส่ใจดูแล บ่อยครั้งเราแคร์ทุกแรงกระทำที่ขึ้นอยู่กับปัจจัยภายนอก แล้วปล่อยให้หัวใจอันร่วงโรยของเรานั้นทุกข์ทนอยู่กับอิทธิพลที่มิอาจควบคุมด้วยสองมือของเรา

(2)
สิ้นเสียงสวดมนต์ทำบุญในวันพระใหญ่ ผมเดินลัดเลาะออกมาเสาะแสวงหาต้นไม้ใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่หลัง สีชมพูของดอกไม้ทุกช่อกำลังส่งกลิ่นและสีสันร้องเรียกให้สองสายตาต้องรีบจับจ้อง ดอกไม้บานแล้วแต่หัวใจของผมนั้นยังคงจมอยู่กับเรื่องราวที่ผ่านพ้นไปเมื่อวาน หรือหัวใจของผมกำลังเริ่มกังวลกับสิ่งต่างๆในวันพรุ่งนี้ ที่อาจจะมีเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงรออยู่เช่นกัน

ลมพัดไหวๆชวนให้ช่อดอกบรรเลงเสียงเพลงตัวโน๊ตคีย์ต่ำ ความสงบเย็นจะเยือกถูกแผ่ซ่านเข้าไปในหัวใจ ราวกับว่ามันจะเข้าไปตัดขั้วความกังวลที่รังแต่จะก่อให้เกิดความวกวนในหัวใจ หากยังไม่หยุดที่จะใช้สมองคาดการณ์ผลลัพธ์ที่ไม่ได้เกิดขึ้นในปัจจุบันเสียตอนนี้ เราอาจจมอยู่กับการประมวลผลของสมองที่ไม่มีหลักการและเหตุผลที่แท้จริงอย่างแน่นอน

"ทำชั่วได้ชั่ว ทำดีจึงต้องได้ดี" คำเปรียบเปรยนี้ดูเหมือนจะแทรกซึมเข้ามาในฉับพลัน ต้นไม้เบื้องหน้าจะเป็นต้นไม้ใหญ่ได้เมื่อได้รับการดูแลจากคนที่มีจิตใจดี ผู้คนผู้คอยดูแล ใส่ใจ คอยเป็นห่วงเป็นใย และได้มองดูต้นไม้ต้นนี้เติบใหญ่ ไปด้วยกัน บางทีเมื่อไม่คาดการณ์กับสิ่งที่ยังมาไม่ถึงนั้น จะทำให้เราสนใจเหตุปัจจับยที่จะทำให้เกิดผลเบื้องหน้านั้นอย่างชัดเจน

(3)
เหมือนว่านิทานเรื่องหนึ่งจะเข้ามาเตือนสติ นิทานเรื่องนี้มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า Hanasakajiisan หรือแปลเป็นไทยง่ายๆว่า "ชายแก่ผู้ทำให้ซากุระบาน"

นิทานเล่าถึงคุณตาคุณยายคู่หนึ่งที่อาศัยในหมู่บ้านท่ามกลางหุบเขาแห่งหนึ่ง วันหนึ่งคุณตาไปเจอเจ้าหมาน้อยที่น่าสงสารจึงเก็บกลับมาเลี้ยงจนเติบใหญ่ ชิโร่จึงตอบแทนด้วยการเห่าหาค้นหาสมบัติให้คุณตาคุณยายไปขุดจนเจอ ทว่าเมื่อชายแก่นิสัยแย่ที่อยู่ข้างบ้านได้ยินเรื่องเข้าเขาจึงรีบคว้าตัวชิโร่ไปบ้าง แต่เมื่อลงมือขุด เขากลับเจอกับขยะเน่าเหม็นที่พวยพุ่งออกมาแทน ด้วยความโกรธเขาจึงทำร้ายชิโร่จนเสียชีวิต

เมื่อคุณตาคุณยายทราบเรื่องจึงรู้สึกเสียใจมาก พวกเขาจึงตัดสินใจสร้างสุสานให้เจ้าชิโร่ แต่เพียงวันเดียวกลับมีต้นไม้งอกขึ้นและเติบโตขึ้นที่บริเวณสุสานของเจ้าชิโร่

คุณตาเริ่มนึกได้ว่าเจ้าชิโร่ชอบกินขนมโมจิ คุณตาและคุณยายจึงรีบไปตัดต้นไม้มาทำเป็นครกขนาดใหญ่ เมื่อเริ่มตำแป้งไปได้ไม่นานเท่าไร แป้งโมจิในครกก็กลายเป็นเหรียญทองทันตา เมื่อชายแก่นิสัยแย่กับเมียเห็นเข้า พวกเขารีบจึงแย่งชิงครกมาเป็นของตัวเอง แต่เมื่อเขาลองตำดูบ้าง แป้งก็กลายเป็นสีดำเหมือนจิตใจที่สกปรกของเขานั่นเอง

ด้วยความโกรธชายแก่นิสัยแย่จึงเอาขวานมาสับ จนกระทั่งครกแตกกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ก่อนที่จะโยนเศษครกเข้าไปในเตาไฟ คุณตาเสียใจมาก เขาค่อยๆเก็บขี้เถ้าของครกไม้นั้นขึ้นมาจากเตา แล้วใส่ไว้ในกล่อง ก่อนจะนำกลับบ้านไปด้วยความรู้สึกราวกับใจสลาย

คุณตาคุณยายยังคิดต่อไปอีกว่า “เจ้าชิโระชอบกินหัวผักกาด งั้นเอาขี้เถ้าไปโรยในแปลงผักกันดีกว่า หัวผักจะได้โตเร็วๆ”

คุณตาจึงเริ่มโรยขี้เถ้าไปทั่วแปลงผัก แล้วลมก็พัดพาขี้เถ้าส่วนหนึ่งไปยังต้นไม้ประหลาดที่คุณตาเพิ่งจะตัดมันไปทำครกโมจิ แต่ทันใดนั้น! ต้นไม้ก็เริ่มออกดอกเป็นซากุระบานบานสะพรั่งไปทั้งต้น เมื่อคุณตาเห็นอย่างนั้นก็ลองนำขี้เถ้าไปโรยที่ต้นไม้ที่ยืนต้นตายอีกต้นซึ่งอยู่ไม่ไกลกันนั้น และมันก็ออกดอกบานสะพรั่ง เป็นดอกซากุระเช่นเดียวกัน

ข่าวความน่าอัศจรรย์ใจนี้แพร่กระจายไปทั่วเมือง ไม่นานนักพระราชาก็ได้ให้คนมานำคุณตาไปเข้าเฝ้า เมื่อไปถึงคุณตาก็โปรยขี้เถ้าไปยังต้นไม้ใกล้ๆ ทันใดนั้นต้นไม้ก็ออกดอกเป็นซากุระสีขาวสวยงามเต็มต้น พระราชาชื่นชอบมากและทรงตรัสว่า “เจ้าเป็นผู้ที่ทำให้ดอกไม้บานได้ยอดเยี่ยมที่สุดในญี่ปุ่น…ข้าจะให้รางวัลเจ้า”

(4)
เสียอย่างเดียวที่นิทานเรื่องนี้ไม่ได้สอนให้เราสกัดกั้นความคิดที่ฟุ้งซ่านให้หยุดลงโดยเร็วพลัน แต่สิ่งที่ผมประทับใจนิทานพื้นบ้านเรื่องนี้ คือ การไม่ยึดติดอยู่กับ "อดีต" หรือ "อนาคต" ที่คาดการณ์ไม่ได้ เหมือนกับคุณตาที่ไม่ได้จมจ่ออยู่กับสิ่งที่เพิ่งจะผ่านพ้นไป และไม่ได้คาดหวังกับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากสิ่งที่เขาทำ หากคุณตาทำมันลงไปอย่างที่หัวใจเขาต้องการก็พอ

เสียงลมสงบลงแล้ว ดูเหมือนว่าทุกสรรพสิ่งจะหยุดเคลื่อนไหวในบัดดล ดอกไม้ยังคงชูช่อของตัวเองรับแสงตะวันโดยไม่หวาดหวั่นว่าลมพายุจะพัดพามีอีกกี่ระลอก ก้านชูช่อดอกยังคงตั้งตรงเพื่อรอคอยดอกอ่อนดอกใหม่ที่กำลังจะถือกำเนิดในอีกไม่ช้า ต้นไม้ใหญ่จัดวางสีสันด้วยดอกไม้ของตัวเองให้ผู้คนที่ผ่านมาพบเห็นได้เก็บภาพหรือพักสายตา เราต่างรับรู้ว่าโลกในปัจจุบันนั้นสวยงามในทุกครั้งที่ได้จ้องมอง

สีสันของวันวานยังคงสวยงามอยู่เสมอ หากเราไม่เผลอปล่อยความคิดแย่ๆไปแทรกซึมจนเกิดปัญหา บ่อยครั้งที่เราใช้ความรู้สึกดีๆในอดีตเป็นแรงผลักดันและงานสร้างสรรค์ให้กับชีวิตที่จะต้องก้าวต่อไปข้างหน้า ตอนนี้เราอาจรู้แล้วก็ได้ว่าต้นไม้ใหญ่ในหัวใจของเราจะถูกตัดแต่งไปในทิศทางใด

#EXP #THEEXPLORER

CREDIT :
花さかじいさん (hanasaka jiisan)
https://www.youtube.com/watch?v=VlUS7vZQ28s#t=24

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

มิงกะลาบา ความหวังใหม่ใต้เปลือกตา

มิงกะลาบา ความหวังใหม่ใต้เปลือกตา

ล้านนาแค่ขยิบตา

ล้านนาแค่ขยิบตา
บันทึกการเดินทางจำนวนสิบสี่ตอนที่จะเปลี่ยนมุมมองทุกการเดินทางให้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

Ads

Most Popular