Beyond Creative, We do

FB:Theexplorerphotographer

test

วันอาทิตย์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2558

IN MY DREAM

IN MY DREAM

********************


(1)
"คนเราต่างมีวิธีรับมือกับความฝันได้เหมือนๆกัน 3 รูปแบบ หนึ่งคือไม่ลงมือทำอะไรเลย สองคือเริ่มต้นทำแล้ว แต่ทำไม่ได้ สามคือลงมือทำให้สำเร็จ"
แม้เราจะเข้าใจความหมายของวิธีการข้างต้นมาเนิ่นนาน แต่บางทีความฝันก็มีตัวแปรที่สลับซับซ้อนกว่าที่คิด หรืออาจจะกล่าวเป็นนัยๆว่าปัจจัยที่ส่งผลต่อความสำเร็จในครั้งนี้ มันไม่ได้ขึ้นอยู่ที่ว่าความฝันนั้นมันยิ่งใหญ่สักแค่ไหน หากเป็นเพราะความฝันเก่าๆยังคงวนเวียนและคอยหลอกหลอนให้เราไม่กล้าเริ่มต้นความฝันครั้งถัดไป เราจะปลดปล่อยความฝันครั้งนั้นให้แห้งเหี่ยวไปหรือจะดึงมันกลับมาแก้ไขในสิ่งที่ควรจะเป็น

ไม่ผิดถ้าเราจะมีความฝันมากกว่าหนึ่งหน ความฝันอาจหมายรวมถึงความต้องการและความปรารถนาที่ยิ่งใหญ่ ความฝันก็เปรียบได้ดั่งเป้าหมายที่ถูกติดตั้งอยู่ในใจ หากมันแค่รอเพียงสมองและร่างกายสั่งการให้มุ่งหน้าไปไขว่คว้าค้นหาในสิ่งที่ต้องการ

คล้ายผมกำลังจมจ่ออยู่กับการรับมือในความฝันสเต็ปที่สอง ความฝันที่ครั้งก่อนได้ลงมือทำไปแล้วแต่ยังไม่ก้าวหน้าต่อไปถึงไหน บาดแผลที่เคยฟกช้ำคล้ายกับกำลังส่งสัญญาณเตือนถึงความอ่อนแอที่หลบซ่อนอยู่ภายใน ความฝันครั้งใหม่จึงไม่กล้าเปิดเผยตัวออกมาให้ใครได้เห็นเสียที

ทว่าทุกความฝันต้องการแรงกระตุ้นจากคนรอบข้าง แรงสนับสนุนระหว่างทางจะทำให้นักล่าฝันมีกำลังที่จะก้าวเท้าออกไปค้นหาจุดหมายในสถานที่แห่งใหม่ แม้บนยอดเขาสูงเสียดฟ้าที่เราเคยคิดว่าไกล เราก็สามารถเดินเท้าไปถึงได้ในสักวันอย่างที่หัวใจต้องการ

(2)
"หากเหนื่อยนักก็พักได้ แต่อย่านาน เพราะเส้นชัยกำลังรอเราอยู่ข้างหน้านี้เอง" เป็นอีกครั้งที่ผมพยายามท้าทายขีดจำกัดของร่างกายด้วยการวิ่งมินิมาราธอนแบบรวดเดียวจอด (ซึ่งอาจจะจอดแบบหมดเรี่ยวหมดแรงจริงๆกลางการแข่งเลยก็ได้) ท่ามกลางนักวิ่งที่ต่างฝึกฝนวิทยายุทธยืดหยุ่นข้อเท้า ขาพับ มาอย่างดี ผมกับเพื่อนอีกหนึ่งชีวิตกำลังวิ่งเยาะๆสลับกับการเดินเป็นระยะๆ เพื่อประคับประคองร่างกายอันบอบบางให้เข้าไปถึงยังเส้นชัยได้อย่างสมประกอบ แต่จนเล่าจนเล่ากล้ามเนื้อขาที่ไม่เคยได้ประลองฝีมือกับเส้นทางที่ยาวไกล ก็ทำให้ผมต้องพาลพบกับอาการเจ็บปวดที่กล้ามเนื้อหลังจากที่วิ่งถึงเส้นชัยไปแล้วได้ไม่นาน

ความท้าทายครั้งนี้มันเกิดขึ้นจากการที่ผมค้นพบเจ้าพุงก้อนกลมที่แอบหย่อนคล้อยอยู่ใต้ราวนม ก้อนไขมันอันน่าสะพรึงก้อนนี้มันมักทำให้สรีระร่างกายกับเสื้อผ้าต่างออกอาการยัดกันไม่ลงกันอยู่พักใหญ่ มีบ้างบางทีที่เสื้อตัวโปรดจะยินยอมให้ก้อนเนื้ออันเทอะทะแทรกตัวลงไป แต่ยิ่งยัดเยียดกันไปนานเท่าไรดูเหมือนเจ้าพุงก้อนกลมจะเริ่มกำแหงและอวดเบ่งใส่ มันคงถึงคราวที่ผมจะต้องดูแลอบรมให้มันเข้าที่เข้าทางเสียที

ยิ่งท้าทายกับเป้าหมายที่ยากลำบากเราจึงค้นพบว่าความฝันน้อยๆกำลังก่อตัวขึ้น ชีวิตคงไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงหากวันนั้นผมไม่ยอมออกจากบ้านมาท้าทายกับสิ่งที่คิดว่าทำไม่ได้ ถ้าเวลานั้นผมหยุดวิ่งกลางคันไปเสียดื้อๆความฝันที่เกือบจะทำสำเร็จคงจะสลายไปกับความตั้งใจที่ถูกสร้างขึ้นมานาน ในวันนี้ผมจึงรู้แล้วว่าความฝันน้อยๆนี้ได้ทำให้นักวิ่งอ่อนซ้อมคนหนึ่งได้ลิ้มชิมรสชาติแห่งชัยชนะและพร้อมที่จะก้าวต่อไปสู่ความฝันที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม

(3)
อาจเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจที่เรายังฝันถึงคนคนเดิมอย่างไม่รู้สาเหตุ แม้ไม่อาจสรรหาเหตุผลใดๆมาอธิบายได้อย่างชัดเจน แต่ตัวเราก็น่าจะพอเข้าใจความรู้สึกที่เก็บอยู่ในส่วนลึกๆได้ดีกว่าคนอื่น

พูดถึงเรื่องความฝันตามหลักการทางวิทยาศาสตร์คงต้องหมายรวมถึงลำดับการสร้างภาพของสมอง ในยามหลับฝันเราสามารถเสกสรรผู้คน สถานที่ หรือแม้แต่ความทรงจำดีๆที่ผ่านไปนานแล้ว ให้หวนกลับมาเป็นภาพที่จิตใต้สำนึกเราสั่งการได้อีกครั้ง ในความฝันมิสามารถควบคุมเหตุการณ์ทุกฉากทุกตอนให้เป็นไปอย่างที่ใจคิดเสียทุกอย่าง เพราะแม้ว่าเราจะสรรค์สร้างภาพในความฝันให้เสมือนจริงมากเท่าไร เมื่อตื่นขึ้นมาตอนเช้าวันใหม่ทุกๆอย่างมันก็จะกลับมาเป็นเหมือนเดิม

ฝันร้ายมักจะทำให้เราสะดุ้งตื่นจากการหลับใหลในช่วงข้ามคืน อย่างการวิ่งหนีกระสุน ฝ่าดงนักเลง ตกลงไปในเหวลึก หรือแม้กระทั่งการถูกใส่ร้ายป้ายสี ความกลัวในหัวใจมักแปลงเรื่องราวในความฝันให้มีอันต้องขาดสะบั้นและจบลงอย่างเร็วพลัน ถ้าต้องการให้ความฝันครั้งใหม่ต่อเนื่องและยาวนานกว่าครั้งนั้น บางทีเราอาจจะต้องลบล้างความรู้สึกแย่ๆที่ซ่อนเล้นอยู่ภายในหัวใจออกไป

เราจะไม่จมอยู่กับฝันร้ายตลอดไป เพียงแค่เราเลือกที่จะจดจำแต่ความรู้สึกดีๆที่เกิดขึ้นในบางช่วงนั้นมาใส่ใจ อดีตที่ผ่านไปแล้วมิอาจย้อนคืนกลับไปแก้ไขได้ใหม่ หากเราต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงเรื่องราวให้ดูสดใส อาจจำเป็นต้องใช้วิธีเปลี่ยนตัวละคร สถานที่ และบริบทให้เหมาะสมกับตัวเรา

แล้ววันนั้นฝันร้ายจะสลายไปเมื่อมีความรู้สึกดีๆถูกเข้ามาทดแทน

วิธีรับมือกับความฝันที่ดีอาจง่ายดายเกินกว่าที่เราจะคาดคิด หากเราไม่ไปยึดติดกับความรู้สึกที่เคยหล่นหาย เมื่อมั่นใจแล้วและตั้งใจแล้วก็อย่าได้กลัวว่าทางข้างหน้าจะอันตราย รีบลงมือจัดการเปลี่ยนภาพความฝันในหัวนั้นให้เกิดขึ้นมาเป็นเรื่องจริง

ความฝันจะดำรงอยู่กับเราแม้ในยามหลับและยามตื่น ความฝันจะเป็นดั่งจุดยืนให้เรากล้าเผชิญกับทุกเรื่องราวที่มีเป้าหมาย ความฝันจะทำให้เราหลงรักในสิ่งที่เราจะลงมือทำแม้จักต้องเหนื่อยยากสักเพียงใด ฝันที่ดีจะลบล้างฝันเลวร้ายและเปลี่ยนเรื่องราวที่คล้ายภาพเสมือนนั้นให้กลายเป็นความจริง

เราเพียงต้องการให้ "ฝันร้าย" จบเอาไว้แค่ในคืนนั้น และอยากให้ "ฝันดี" คือคำพูดที่ส่งถึงกันทุกๆคืน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

มิงกะลาบา ความหวังใหม่ใต้เปลือกตา

มิงกะลาบา ความหวังใหม่ใต้เปลือกตา

ล้านนาแค่ขยิบตา

ล้านนาแค่ขยิบตา
บันทึกการเดินทางจำนวนสิบสี่ตอนที่จะเปลี่ยนมุมมองทุกการเดินทางให้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

Ads

Most Popular