Beyond Creative, We do

FB:Theexplorerphotographer

test

วันอาทิตย์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2558

THEORIES OF ROMANTIC LOVE

::: THEORIES OF ROMANTIC LOVE :::
********************


(1)
หากความรักเปรียบได้ดั่งบทละครอันแสนโรแมนติก คงต้องมีสักหนึ่งตอนที่ผู้เขียนบทจำต้องหาอุบายที่แยบยลดึงอารมณ์ของตัวละครเอกทั้งสองให้รีบหันหน้าเข้ามาเจอกันให้ไวอย่างไม่ตั้งใจ และเหตุการณ์อันน่าประหลาดใจนี้ก็มักจะก่อให้เกิดเป็นอุบัติเหตุแห่งรักได้อย่างแนบเนียนจนผู้ชมเดาทางหนีทีไล่กันไม่ออกเลยเสียจริงๆ
แม้จะเป็นช่วงหนึ่งที่ดึงอารมณ์ร่วมไปได้อย่างน่าอัศจรรย์ แต่ทุกครั้งบทละครก็จำเป็นต้องสร้างอุปสรรคให้พระเอกและนางเอกต้องโดดข้ามสิ่งกีดขวางก่อนจะจบเรื่องทุกครั้งไป
จุดเปลี่ยนก่อนจบมักตราตรึงให้ผู้ชมติดงอมแงมมากจนถึงขนาดทำให้รถราบนถนนเงียบเหงาไปเสียดื้อๆ อาจเป็นเพราะเราต่างรอลุ้นฉากสุดท้ายของตัวละครทั้งสองให้จบลงด้วยดี ทั้งๆที่เราต่างรู้กันอยู่แก่ใจว่าผู้จัดละครคงไม่หักดิบให้จบลงแบบไม่น่าจดจำ
ไม่ยากเลยที่จะคาดเดาตอนจบของบทละครทั่วๆไปที่จำเจ เพราะมันคงหนีไปไม่พ้นกับการครองรักของเจ้าหญิงและเจ้าชายในปราสาททรายสีทองตามทำนองท้องเรื่องที่เราเคยได้ยินกันมา ตั้งแต่เรื่องสโนไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ด ไปจนถึงละครไทยเดิมอย่างดาบเจ็ดสีมณีเจ็ดแสง หากวันใดที่ท้องฟ้าวิปริตแปรปรวนอย่างผิดวิสัย จนทำให้ผู้ชมเริ่มเบื่อกับกระแสของหนังรักที่จบกันแบบไม่เคยทำให้แปลกใจ วันนั้นเราอาจได้เห็นละครไทยหักดิบตอนจบแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยกันอีกสักครั้งก็เป็นได้ (แม้ในอดีตจะมีภาพยนตร์และละครเพียงไม่กี่เรื่องที่กล้าค้านสายตาผู้ชมมาแล้วก็ตาม)
ในสถานะผู้รับชมอย่างเราๆท่านๆคงอยากเห็นความรักอันแสนหวานชื่นในตอนต้นเรื่องของตัวเอกทั้งสอง และยังต้องการเนื้อเรื่องที่จบท้ายด้วยความรักที่หนักแน่นยิ่งขึ้นมากกว่าเก่า ฤาเพราะเรากำลังเสพสมอารมณ์รักในรูปแบบอิงบทละครเสียมากไป พอเอาเข้าจริงๆความสัมพันธ์มันอาจจะไม่ได้สวยงามหรือย่ำแย่ไปกว่านั้นก็ได้ เพียงเราค่อยๆปลีกตัวออกมาจากบทแม่ผัวกดขี่ลูกสะใภ้ บางทีเราอาจค้นพบบทของเจ้าหญิงเจ้าชายที่ชีวิตได้ถูกโปรยปรายไปด้วยกลีบกุหลาบที่รออยู่มานานแล้ว
ชีวิตจริงไม่ได้เป็นไปยิ่งกว่าละคร และความรักก็เป็นเช่นนั้น จุดกำเนิดของเจ้าชายคงไม่ต้องเหมือนกันไปเสียหมด อีกทั้งเจ้าหญิงก็ไม่จำเป็นต้องรอบนหอคอยงาช้าง เมื่อยุคสมัยอาณาจักรโรมันได้ล่มสลายไปนานแล้ว เพียงแค่เราเดินข้ามผ่านวงจรเดิมๆที่เคยจดจำจนฝังใจมาในครั้งก่อน แล้วกล้าที่จะพุ่งเข้าหาความรักครั้งใหม่ด้วยความรู้สึกของตัวเอง
(2)
จอห์น อาร์มสตรอง ศาสตราจารย์ด้านปรัชญาและสุนทรียศาสตร์ได้รวบรวมและเรียบเรียงขั้นตอนการมีความรักของมนุษย์ผ่านทางตัวอักษรในหนังสือ Conditions of Love (หรืออีกชื่อในนาม ความลับในความรัก) เอาไว้อย่างน่าสนใจ
"ความรักคือเนื้อหาหลักในอัตชีวประวัติที่เราต่างเขียนขึ้นในระหว่างที่
พยายามทำความเข้าใจกับชีวิตของตนเอง แต่ทุกครั้งที่คิดถึงมัน เราก็ยิ่งสับสน ความรักมักถูกนำไปผูกโยงเข้ากับภาพแห่งความสุขของคนเรา ทว่า ไม่มีใครที่เราจะทำร้ายหรือถูกเราทำร้ายได้มากไปกว่าคนที่เรารัก"
อาจไม่ใช่เรื่องยากที่เราจะแอบไปตกหลุมรักกับใครสักคน มันอาจจะเป็นตอนสบสายตาในยามเผลอ หรืออาจจะเป็นตอนที่เราต้องการใครสักคนที่เข้ามาแคร์ความรู้สึกลึกๆด้วยความห่วงใย การตกหลุมรักเป็นกระบวนการแรกเริ่มที่จะช่วยชี้ทางสว่างให้เห็นแจ้งว่าความรักในครั้งนั้นควรที่จะสุกงอมหรือปล่อยให้แก่คาต้นต่อไป
แต่จนแล้วจนเล่าก็คงไม่มีทฤษฎีใดๆที่จะล้มล้างทฤษฎีของความรักไปได้ หากความรักยังคงเข้าไปเกี่ยวข้องกับความรู้สึกของมนุษย์ที่มีอยู่ร้อยแปดพันเก้าอารมณ์สุนทรีย์ที่ยากเกินจะคาดเดา เรามิอาจชักจูงให้ความรักครั้งไหนๆดำเนินต่อไปในทิศทางที่เคยเกิดขึ้นตามต้องการ เพราะผลลัพธ์ของมันไม่เคยถูกกำหนดอยู่บนตัวอักษรของใครๆ แต่ผลกระทบสุดท้ายมันจะเกาะเหนียวแน่นไว้บนความรู้สึกของคนที่เรารักเท่านั้นเอง
ไม่มีทฤษฎีความรักถูกบรรจุลงไว้ในตำราได้หมด ไม่มีพ่อมดตนใดจะสรรค์สร้างยาวิเศษออกมาป่าวประกาศขาย หากความรักอันแท้จริงจักต้องหมั่นคอยดูแลและรักษาด้วยหัวใจ ทฤษฎีจากหนังสือกองใหญ่อาจเป็นเพียงคำแนะนำที่ปราศจากผลจากการกระทำอันแท้จริง
(3)
ประสบการณ์ความรักของคนคนหนึ่งมิอาจส่งผลต่อการดำเนินชีวิตของอีกคนไปเสียหมด บางครั้งความรักเก่าๆที่จบแบบไม่สวยหรูก็ชี้ให้เห็นทางไปต่อที่น่าสนใจกว่า เราไม่จำเป็นต้องละทิ้งความรู้สึกแย่ๆให้จมลึกฝังแน่นไปตลอดเวลา เพียงแค่หยิบยกแง่ดีที่มีให้กันในวันที่เรามีความสุขกลับมาเติมเต็มอีกครั้งบนทางเดินเส้นใหม่ก็พอ
แม้บทละครจะจบลงตรงตอนที่พระเอกกอดจูบและดูดดื่มไปกลับริมฝีปากอันเร่าร้อนของนางเอก แต่พระเอกและนางเอกในชีวิตจริงยังคงต้องเดินต่อไปบนเส้นทางที่มั่นหมาย การสร้างครอบครัวให้เป็นหลักแหล่งผนวกกับปูทางอนาคตให้ลูกหลานยังคงมีหลากวิธีอีกมากมาย อย่ามัวแต่ปลดปล่อยให้ช่วงเวลาที่มีค่าในวันนี้หล่นหายไปพร้อมๆกับภาพมโนที่ไม่จีรัง
ความโรแมนติกสรรค์สร้างให้โลกของเราน่าอยู่กว่าที่เคยเป็น เมื่อเราต่างลดความคาดหวังต่อทุกสิ่งที่ลงมือทำให้แก่คนข้างๆด้วยหัวใจ หากผลลัพธ์คือความต้องการเพียงเห็นว่าคนที่เรารักมีความสุขสบายใจ เราก็เป็นคนที่มีความรักที่แท้จริงได้ไม่แตกต่างกัน
ความรักเชื่อมโยงให้ผู้คนออกจากสถานมาพบหน้า คล้ายดั่งสายธารความห่วงหาที่เชื่อมโยงใยให้แก่ทุกชีวิตได้ค้นพบกับความหมาย หากรักคือความจริงแท้ที่ทำให้ทุกคนได้มีชีวิตต่อไปจากนี้เพื่อใคร วันนี้เราจึงเริ่มรู้สึกรักใครบางคนได้ โดยไม่ต้องสรรหาทฤษฎีใดๆมาประกอบมันขึ้นมาเลย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

มิงกะลาบา ความหวังใหม่ใต้เปลือกตา

มิงกะลาบา ความหวังใหม่ใต้เปลือกตา

ล้านนาแค่ขยิบตา

ล้านนาแค่ขยิบตา
บันทึกการเดินทางจำนวนสิบสี่ตอนที่จะเปลี่ยนมุมมองทุกการเดินทางให้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

Ads

Most Popular