Beyond Creative, We do

FB:Theexplorerphotographer

test

วันอาทิตย์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2558

วิชาความสุข

วิชาความสุข

********************



(1)
เมื่อกาลเวลาล่วงเลยผ่านไปหัวใจดวงน้อยๆจึงได้เติบใหญ่อย่างสมใจเสียที หากมีพรอันศักดิ์สิทธิ์เพียงข้อหนึ่งที่จะนำพาให้เราย้อนอดีตกลับไปในวัยเด็กได้อีกครั้ง ผมก็ต้องการที่จะกลับไปในเวลานั้นแม้จะเป็นเพียงชั่วขณะหนึ่งก็ตาม เพื่อกลับไปรับรู้ความรู้สึกดีๆในวันวัยกระเตาะกระแตะที่มีผู้คนห้อมล้อม บ้างเข้ามาแกมหยิกแกมหยอกกันอย่างไม่ขาดสาย ความไร้เดียงสาที่เรายังคงรำลึกนึกถึงเสมอแม้ในยามนอนหลับฝัน

ผมสะดุ้งตื่นจากฝันกลางวันด้วยอุ้งมือน้อยๆของหลานชายสุดที่รัก เด็กน้อยหน้าตี๋กับรอยยิ้มที่ดูมีสไตล์กำลังเอารถของเล่นมาเข็นอยู่บนหน้าผม ดูเหมือนกับถนนสายใหม่กำลังถูกตัดผ่านมาโดยมิได้เจตนา รถคันแล้วคันเล่าจึงเฝ้าแต่วนเวียนไปมาจนผมเริ่มทนกับการจราจรที่คับคั่งนี้ไม่ไหว เห็นทีว่าผมจะต้องรีบลุกขึ้นไปจัดการกับเจ้าของอู่ที่แอบมาเริงร่าอยู่ตรงหน้าแบบจริงจังเสียที

เจ้าของอู่รถยังคงหัวเราะอย่างอิ่มหมีทีมันในขณะที่ผมทำหน้าทะเล้นใส่ อาจเป็นเพราะความสนิทสนมของเราทั้งสองที่ทำให้เด็กหน้าตี๋คนนี้ไม่เคยคิดจะเกรงกลัว รถสองคันยังคงแล่นวนเวียนกันให้ขวักไขว่ต่อไป แต่เปลี่ยนจากถนนบนหน้ามาแล่นที่ไหล่ของผมแทน

เวลาคลุกคลีกับหลานมากๆ มันทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองก็มีมุมที่ไร้เดียงสาไม่ต่างกัน แม้ยังคุยกันไม่รู้เรื่องแต่ก็สามารถหลุดขำไปได้ตลอดเวลา เวลาอยู่กับหลานหน้าตี๋คนนี้กลับทำให้ผมลืมความรู้สึกแย่ๆ เครียดๆ ไปในชั่วขณะ ราวกับเสียงหัวเราะและรอยยิ้มที่เราส่งให้แก่กัน กำลังนำทางให้ผมเปิดประตูย้อนเวลากลับไปในวันวัยนั้น วันวัยที่โลกของความฝันสวยงามเหมือนกับโลกความจริง

(2)
เสียงออดโรงเรียนดังมาแต่ไกล นี่คงถึงเวลาที่เด็กชายเด็กหญิงในรั้วโรงเรียนจะได้แยกย้ายกันกลับบ้านกันเสียที เหล่าบรรดาเด็กชายเริ่มจับกลุ่มตบเท้าเคลื่อนขบวนออกมาเป็นกลุ่มแรก พร้อมๆกับเด็กหญิงกลุ่มถัดมาที่กำลังเดินย่างเท้าเม้าท์มอยกันอย่างเมามัน ป้ายรถเมล์หน้าโรงเรียนตอนนี้กำลังถูกตกแต่งไปด้วยหนุ่มขาสั้นกับหญิงกระโปรงบาน ราวกับความเงียบสงัดที่ผมเพิ่งเดินผ่านไปเมื่อสักครู่ถูกเปลี่ยนเป็นตลาดสดที่ขายเฉพาะสินค้าที่มีชื่อว่า จินตนาการ และ ความฝัน

เด็กชายกลุ่มหนึ่งจับกลุ่มกันยืนกร่างๆแถมเต๊ะท่าใส่สาวมหาวิทยลัยข้างเคียงที่กำลังเดินผ่าน เด็กหญิงอีกกลุ่มค่อยๆบรรจงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาสอดส่องความสวยความงามที่มิอาจลดค่าลงได้เลยในทุกวินาที ไม่นานนักเสียงบีบแตรยาวของแก๊งค์มอเตอร์ไซด์ที่มีเด็กชายอัดกันอยู่ห้าคนก็ผ่าใจกลางทำเอาวงสนทนาน้อยใหญ่เป็นอันต้องยุติกัน

ในวันวัยนั้นเราอาจเคยเป็นส่วนหนึ่งของพฤติกรรมของเด็กๆที่อยู่ตรงนี้ เราอาจมองเห็นว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่ถูกไม่ควรกับบางการกระทำที่ไม่ค่อยจะถูกใจของผู้ใหญ่นัก หากในวันวัยนั้นเราอยากให้นักเรียนจงพากเพียรตั้งใจเรียนแล้วโตไปเป็นอนาคตของชาติกันต่อไป แต่หากอนาคตจะเปลี่ยนไปได้อย่างไรหากเราไม่เคยได้ลงมือทำอะไรที่แตกต่างไปจากที่ผู้ใหญ่เคยทำ

ผมสดับรับฟังเสียงเฮฮาที่ดูร่าเริงและสดใส บนโลกของพวกเขามีแต่ความรัก มิตรภาพ และจินตนาการที่กว้างไกล หากเราไม่มัวแต่บังคับให้เขาต้องจมอยู่กับเส้นตรงเส้นเดียวเสมอไป สักวันเขาอาจค้นพบตัวตนที่ใช่สำหรับตัวเอง

(3)
สายฝนกำลังสาดซัดไปยังหน้าต่างบนตึกสูง 36 ชั้น หยดน้ำฝนกระเซ็นกระทบกับบานกระจกจนเกิดเป็นเสียงดังอันน่าแปลกใจ ความมืดมิดค่อยๆคลืบคลานเข้ามาใกล้ ในขณะที่หน้าปัดนาฬิกายังคงย้ำเตือนถึงเแค่เวลาเที่ยงวัน บรรยากาศออฟฟิศดูเงียบสงัดเมื่อผู้คนต่างพากันทยอยหิ้วท้องอันแสนหย่อนคล้อยลงมานั่งรับประทานอาหารกันที่ใต้ตึก

ห้องอาหารดูแคบไปถนัดตาเมื่อผู้คนแปลกหน้าแปลกตาต่างมารวมกันโดยมิได้นัดหมาย ราวกับสายฝนช่วยตัดชอยส์สำหรับการเลือกร้านอาหารในมื้อเที่ยงนี้ให้กับทุกคน ผมเดินลัดเลาะรอบตึกมากับกลุ่มหญิงสาวร่างเล็ก ในวงสนทนาหน้าตาดูไม่เด็กเราต่างสนทนากันในเรื่องการทำงานในชีวิตประจำวัน หากตอนนี้เราก็เปรียบได้ดั่งฟันเฟืองที่ต้องสอดคล้องซึ่งกันและกัน ความร่วมมือร่วมใจในวันวัยนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญที่แท้จริง

ในวงสนทนาเราต่างหาเรื่องที่มีสาระและอารมณ์ขันมาคุยกัน แอบแซวผู้ใหญ่คนโน้น แอบขำกับมุขตลกของน้องคนนี้ แถมยังแอบยิงมุขกันเบาๆอย่างไม่ขาดสาย บนโต๊ะอาหารไม่มีเขตแดนอายุหรือทัศนคติที่ทำให้เราต้องแปลกแยกออกจากกัน ถ้าต้องการนำพาตัวเองไปให้ถึงยังฝั่งฝันเราจำเป็นต้องเดินไปพร้อมกับเพื่อนร่วมทาง

บรรยากาศดูเป็นมิตรจึงทำให้เรากล้าเปิดเผยความผิดกันซึ่งๆหน้า ยิ่งได้ร่วมแชร์เราจึงได้รู้ว่าเหตุการณ์ในอดีตนั้นมันก็ไม่ได้แย่เสมอไป บางทีเราอาจได้เริ่มต้นใหม่กับหัวใจสักดวงที่เพิ่งผ่านพ้นเหตุการณ์นั้นมาเหมือนกัน

สายฝนทำให้โต๊ะอาหารดูกลมมนและคึกคัก เสียงหัวเราะจากโต๊ะข้างๆดูเหมือนจะกลบเกลื่อนความเครียดให้เลือนหายไปอย่างน่าอัศจรรย์ หากการร่วมแชร์ความทุกข์จะทำให้มันถูกลดระดับลงจนชั่วนิรันดร์ และเมื่อไรที่เราเริ่มแชร์ความสุขนั้นมันจะเบ่งบานแบบอนันต์เช่นกัน

วันวัยที่เลยผ่านทำให้เรารักที่จะมีชีวิตอยู่อย่างมีความสุข หากครั้งไหนที่ไม่เผลอไผลยอมปล่อยตัวปล่อยใจให้ความรู้สึกอันว้าเหว่เข้าครอบงำ เราอาจจะกำลังได้เรียนรู้วิชาความสุขไปทีละเล็กทีละน้อยจนเข้าใจและเลือกที่จะจดจำแต่ความรู้สึกดีๆ

ความสุขอาจเกิดขึ้นตั้งแต่วันแรกที่เราเริ่มก้าวเท้าเป็น ความสุขอาจกำลังขับเคลื่อนด้วยความเร็วแสงที่มองเห็นในวันที่มีความรัก ความสุขอาจสอดแทรกเข้ามากับความทุกข์ในวันที่ผิดหวังแต่ในสุดท้ายหัวใจก็กลับฟื้นขึ้นด้วยพลัง ความสุขอาจเหมือนกับสิ่งที่เราถามหาในวันนั้น และคำตอบคำนั้นมันมักจะอยู่ข้างๆตัวเราเอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

มิงกะลาบา ความหวังใหม่ใต้เปลือกตา

มิงกะลาบา ความหวังใหม่ใต้เปลือกตา

ล้านนาแค่ขยิบตา

ล้านนาแค่ขยิบตา
บันทึกการเดินทางจำนวนสิบสี่ตอนที่จะเปลี่ยนมุมมองทุกการเดินทางให้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

Ads

Most Popular